ปัตตานี - มุสลิมชายแดนใต้ยังเชื่อมั่น และพร้อมไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ยันไม่ยกเลิกถึงแม้ว่าจะมีโรคโรคเมอร์สระบาด หรือโรคโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ด้าน ศอ.บต.ร่วมกับสาธารณสุข วางมาตรการป้องกันผู้ไปแสวงบุญทั้งไปและกลับ
วันนี้ (19 มิย.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่เกิดโรคเมอร์ส์เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงกรณีที่จะมีคนไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ตะวันออกหลางนั้น โดยเที่ยวแรกเดินทางไปวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ประมาณ 200-300 คนนั้น
นายแวยูโซ๊ะ สะมะอาลี ประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์ กิจการฮัจญ์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมศาสนา และเป็นผู้ดูแลคนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เปิดเผยว่า สถิติคนไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ปีนี้รวม 10,400 คน จ.ปัตตานี มากที่สุด 1,901 คน นราธิวาส 1,612 คน สงขลา 1440 คน ยะลา 1,205 คน สตูล 737 คน และที่เหลือเป็นจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย ส่วนที่มีโรคเมอร์ส ในประเทศตะวันออกกลางนั้น ผู้แสวงบุญไม่ได้ตกใจ หรือตื่นเต้น ไม่มีผลกระทบต่อผู้ไปฮัจญ์ ไม่มีใครยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ที่ไปอุมเราะห์ และเพิ่งกลับมาก็ไม่มีใครติดเชื้อแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงเชื่อว่าโรคนี้คงระบาดรอบนอกบริเวณพิธีที่ทำประกอบพิธีฮัจญ์ อย่างไรก็ตาม เราได้เน้นป้องกันโดยใช้ผ้าปิดจมูก และหน่วยงานสาธารณสุข ประกาศเตือน เพราะเป็นโรคใหม่ที่ชาวบ้านยังไม่รู้
สาเหตุที่ผู้ประกอบพิธียังยืนยันที่จะเดินทางไปโดยไม่มีใครยกเลิก เพราะว่าเขาเชื่อมั่นในพระเจ้าอัลเลาะห์ที่นับถืออยู่ และในการประกอบพิธีฮัจญ์คงไม่มีใครนำโรคมาเผยแพร่ในบริเวณดังกล่าวทั้งๆ ที่มากันทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ ประกอบกับผู้เดินทางเชื่อว่า แต่ละประเทศคงหาวิธีป้องกันเช่นกัน และประเทศซาอุดีอาระเบียเองคงมีการตรวจเข้ม มาตรการการควบคุมโรคเหล่านี้อยู่แล้ว
นายยูโซ๊ะ เผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีการป้องกันอยู่แล้ว พร้อมทั้งทำการชี้แจงให้เข้าใจต่อโรคใหม่ที่เกิดขึ้น ปกติต้องนำผ้าปิดจมูกปิดตลอดอยู่แล้ว เพราะฝุ่นมาก และอากาศร้อน ส่วนเรื่องฉีดยาป้องกันโรคกาฬหลังแอ่น ทุกคนก็ฉีดกันหมดแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร อนึ่ง การลดจำนวนผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์มีทุกๆปี แต่ประกาศล่วงหน้าว่าให้แต่ละประเทศจำกัดจำนวนคน เนื่องจากพื้นที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง พื้นที่อาศัยไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามน่าจะได้เพิ่มโควตาคือ 13,000 กว่าคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเรื่องนี้ ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ดำเนินการเพื่อการป้องกัน เฝ้าระวังและดูแล ทั้งก่อนเดินทาง ขณะอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย และหลังกลับในกลุ่มผู้แสวงบุญที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ และฮุมเราะห์ ก่อนเดินทาง ได้จัดรับฉีดวัคซีนป้องกันโรค และตรวจสุขภาพทุกคนมีการให้ความรู้เรื่องโรค MERS พร้อมแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เพื่อป้องกันโรคขณะอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย จะมีหน่วยพยาบาลไทยคอยดูแลผู้แสวงบุญ โดยมีผู้นำกลุ่มแซะห์จะเป็นผู้ประสานเมื่อสงสัยผู้แสวงบุญป่วยจะมีช่องทางพิเศษที่สามารถดูแลได้ทันที หลังเดินทางภายใน 7 วัน จะมีเจ้าหน้าสาธารณสุขในพื้นที่ไปเยี่ยมผู้แสวงบุญถึงบ้านทุกรายเพื่อเฝ้าระวังโรค สำหรับผู้ที่เข้าข่ายติดเชื้อที่มีข้อมูลจากหน่วยพยาบาลไทยจะไปเยี่ยมทันทีที่ผู้แสวงบุญกลับถึงบ้าน
วันนี้ (19 มิย.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่เกิดโรคเมอร์ส์เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงกรณีที่จะมีคนไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ตะวันออกหลางนั้น โดยเที่ยวแรกเดินทางไปวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ประมาณ 200-300 คนนั้น
นายแวยูโซ๊ะ สะมะอาลี ประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์ กิจการฮัจญ์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมศาสนา และเป็นผู้ดูแลคนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เปิดเผยว่า สถิติคนไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ปีนี้รวม 10,400 คน จ.ปัตตานี มากที่สุด 1,901 คน นราธิวาส 1,612 คน สงขลา 1440 คน ยะลา 1,205 คน สตูล 737 คน และที่เหลือเป็นจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย ส่วนที่มีโรคเมอร์ส ในประเทศตะวันออกกลางนั้น ผู้แสวงบุญไม่ได้ตกใจ หรือตื่นเต้น ไม่มีผลกระทบต่อผู้ไปฮัจญ์ ไม่มีใครยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ที่ไปอุมเราะห์ และเพิ่งกลับมาก็ไม่มีใครติดเชื้อแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงเชื่อว่าโรคนี้คงระบาดรอบนอกบริเวณพิธีที่ทำประกอบพิธีฮัจญ์ อย่างไรก็ตาม เราได้เน้นป้องกันโดยใช้ผ้าปิดจมูก และหน่วยงานสาธารณสุข ประกาศเตือน เพราะเป็นโรคใหม่ที่ชาวบ้านยังไม่รู้
สาเหตุที่ผู้ประกอบพิธียังยืนยันที่จะเดินทางไปโดยไม่มีใครยกเลิก เพราะว่าเขาเชื่อมั่นในพระเจ้าอัลเลาะห์ที่นับถืออยู่ และในการประกอบพิธีฮัจญ์คงไม่มีใครนำโรคมาเผยแพร่ในบริเวณดังกล่าวทั้งๆ ที่มากันทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ ประกอบกับผู้เดินทางเชื่อว่า แต่ละประเทศคงหาวิธีป้องกันเช่นกัน และประเทศซาอุดีอาระเบียเองคงมีการตรวจเข้ม มาตรการการควบคุมโรคเหล่านี้อยู่แล้ว
นายยูโซ๊ะ เผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีการป้องกันอยู่แล้ว พร้อมทั้งทำการชี้แจงให้เข้าใจต่อโรคใหม่ที่เกิดขึ้น ปกติต้องนำผ้าปิดจมูกปิดตลอดอยู่แล้ว เพราะฝุ่นมาก และอากาศร้อน ส่วนเรื่องฉีดยาป้องกันโรคกาฬหลังแอ่น ทุกคนก็ฉีดกันหมดแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร อนึ่ง การลดจำนวนผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์มีทุกๆปี แต่ประกาศล่วงหน้าว่าให้แต่ละประเทศจำกัดจำนวนคน เนื่องจากพื้นที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง พื้นที่อาศัยไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามน่าจะได้เพิ่มโควตาคือ 13,000 กว่าคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเรื่องนี้ ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ดำเนินการเพื่อการป้องกัน เฝ้าระวังและดูแล ทั้งก่อนเดินทาง ขณะอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย และหลังกลับในกลุ่มผู้แสวงบุญที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ และฮุมเราะห์ ก่อนเดินทาง ได้จัดรับฉีดวัคซีนป้องกันโรค และตรวจสุขภาพทุกคนมีการให้ความรู้เรื่องโรค MERS พร้อมแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เพื่อป้องกันโรคขณะอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย จะมีหน่วยพยาบาลไทยคอยดูแลผู้แสวงบุญ โดยมีผู้นำกลุ่มแซะห์จะเป็นผู้ประสานเมื่อสงสัยผู้แสวงบุญป่วยจะมีช่องทางพิเศษที่สามารถดูแลได้ทันที หลังเดินทางภายใน 7 วัน จะมีเจ้าหน้าสาธารณสุขในพื้นที่ไปเยี่ยมผู้แสวงบุญถึงบ้านทุกรายเพื่อเฝ้าระวังโรค สำหรับผู้ที่เข้าข่ายติดเชื้อที่มีข้อมูลจากหน่วยพยาบาลไทยจะไปเยี่ยมทันทีที่ผู้แสวงบุญกลับถึงบ้าน