เกาหลีเหนือเตือนตอนเช้ามืดวันเสาร์(22ส.ค.) ว่าพวกเขาพร้อมเสี่ยงกับสงครามเต็มรูปแบบกับเกาหลีใต้ หลังประธานาธิบดีคิมจองอึน ออกคำสั่งทหารที่ประจำการในแถวหน้าพร้อมรบหรือเข้าสู่ภาวะสงคราม เพื่อเสริมความหนักแน่นของคำขาดที่ยื่นให้โสมขาวระงับกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อข้ามชายแดน ซึ่งมีเส้นตาย 17.00น.ของวันเสาร์(22ส.ค.)ตามเวลาในไทย
คำเตือนมีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งทะยานถึงขีดสุด ตามหลังเหตุยิงปืนใหญ่เข้าใส่กันในวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) ที่กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องยกระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุด
"ทหารและประชาชนของเราพร้อมเสี่ยงกับสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่เพื่อแค่ตอบโต้หรือแก้แค้น แต่เพื่อปกป้องระบอบที่ประชาชนของเราเป็นคนเลือก" ยอนฮับ สื่อมวลชนเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเปียงยาง ที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ(เคซีเอ็นเอ) "สถานการณ์มาถึงขอบเหวแห่งสงครามและมิอาจถอยหลังกลับได้อีกแล้ว"
นานหลายทศวรรษแล้ว ที่ชาวเกาหลีใต้เคยชินกับพฤติกรรมยั่วยุและเป็นปรปักษ์ของเกาหลีเหนือ จนแทบไม่พบเห็นอาการตื่นตระหนักของประชาชนในกรุงโซล แม้เผชิญคำขู่น่ากลัวบ่อยครั้ง ขณะที่ คิม เคยออกคำสั่งพร้อมสู้รบแบบเดียวกันนี้มาแล้วในอดีต ล่าสุดคือย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ที่เขาประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้ ทว่าผลลัพธ์คือไม่มีเหตุปะทะกัน
คำเตือนมีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งทะยานถึงขีดสุด ตามหลังเหตุยิงปืนใหญ่เข้าใส่กันในวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) ที่กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องยกระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุด
"ทหารและประชาชนของเราพร้อมเสี่ยงกับสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่เพื่อแค่ตอบโต้หรือแก้แค้น แต่เพื่อปกป้องระบอบที่ประชาชนของเราเป็นคนเลือก" ยอนฮับ สื่อมวลชนเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเปียงยาง ที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ(เคซีเอ็นเอ) "สถานการณ์มาถึงขอบเหวแห่งสงครามและมิอาจถอยหลังกลับได้อีกแล้ว"
นานหลายทศวรรษแล้ว ที่ชาวเกาหลีใต้เคยชินกับพฤติกรรมยั่วยุและเป็นปรปักษ์ของเกาหลีเหนือ จนแทบไม่พบเห็นอาการตื่นตระหนักของประชาชนในกรุงโซล แม้เผชิญคำขู่น่ากลัวบ่อยครั้ง ขณะที่ คิม เคยออกคำสั่งพร้อมสู้รบแบบเดียวกันนี้มาแล้วในอดีต ล่าสุดคือย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ที่เขาประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้ ทว่าผลลัพธ์คือไม่มีเหตุปะทะกัน