ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้ท้วงติงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ไม่มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ให้บริการ เนื่องจากไม่มีกฎหมายระบุที่ชัดเจน ส่งผลให้ต้องชะลอจ่ายเงินดังกล่าวให้กับผู้ให้บริการที่ได้รับผลกระทบจากการให้บริการในช่วงระหว่างแก้ไขกฎหมายรองรับ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านการเยียวยาผู้ให้บริการ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2558 บอร์ด สปสช.จึงได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐขององค์การเภสัชกรรมสำหรับดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอที่สำนักงานปลัด สธ.ได้หารือร่วมกับ สปสช.ที่เห็นตรงกันว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บุคลากร สธ. มีความจำเป็น และส่งผลทำให้เกิดการบริการ และความเข้าใจที่ดีภายในระบบบริการสาธารณสุข
ส่วนแหล่งเงินที่นำมาจ่ายคือ เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐที่องค์การเภสัชกรรมให้การสนับสนุนนั้น ก็เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วยเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ พ.ศ.2557
ในข้อที่ 6 (5) การพัฒนาด้านการให้บริการและอื่นๆ ที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อหน่วยบริการ หรือบุคลากรของหน่วยบริการ หรือประชาชนผู้มารับบริการ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท โดยอ้างอิงภาพรวมการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ให้บริการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของเจ้าพนักงานฉุกเฉิน โรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ที่ผ่านมา จากกรณีรถฉุกเฉินประสบอุบัติเหตุขณะนำส่งผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็จะได้รับการช่วยเหลือจากแหล่งเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจากที่บอร์ด สปสช.เห็นชอบในครั้งนี้ด้วย
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านการเยียวยาผู้ให้บริการ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2558 บอร์ด สปสช.จึงได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐขององค์การเภสัชกรรมสำหรับดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอที่สำนักงานปลัด สธ.ได้หารือร่วมกับ สปสช.ที่เห็นตรงกันว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บุคลากร สธ. มีความจำเป็น และส่งผลทำให้เกิดการบริการ และความเข้าใจที่ดีภายในระบบบริการสาธารณสุข
ส่วนแหล่งเงินที่นำมาจ่ายคือ เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐที่องค์การเภสัชกรรมให้การสนับสนุนนั้น ก็เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วยเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ พ.ศ.2557
ในข้อที่ 6 (5) การพัฒนาด้านการให้บริการและอื่นๆ ที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อหน่วยบริการ หรือบุคลากรของหน่วยบริการ หรือประชาชนผู้มารับบริการ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท โดยอ้างอิงภาพรวมการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ให้บริการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของเจ้าพนักงานฉุกเฉิน โรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ที่ผ่านมา จากกรณีรถฉุกเฉินประสบอุบัติเหตุขณะนำส่งผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็จะได้รับการช่วยเหลือจากแหล่งเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจากที่บอร์ด สปสช.เห็นชอบในครั้งนี้ด้วย