พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ติดตามและกำชับให้การดำเนินโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการผ่านธนาคารรัฐ 3 แห่ง คือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร หรือ ธกส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ให้มีความพร้อมมากที่สุดทั้งระบบการให้บริการ การให้คำปรึกษาของเจ้าหน้าที่ และทดสอบระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เพื่อให้มีความสมบูรณ์และพร้อมให้บริการในวันเปิดโครงการ โดยเบื้องต้น ธกส. ได้ซักซ้อมอบรมเจ้าหน้าที่และทดสอบระบบแล้ว ขณะที่ธนาคารออมสินได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แล้ว และกำลังทดสอบระบบ รวมทั้งทำเรื่องชี้แจงไปยังธนาคารสาขา ซึ่งคาดว่าวันเปิดโครงการจะเลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 18 สิงหาคม ไปเป็นวันที่ 20 สิงหาคม เพื่อให้มีช่วงเวลาในการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างทั่วถึงครอบคลุมมากที่สุด
สำหรับกองทุนการออมแห่งชาติมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ ซึ่งคาดว่ามีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ อาชีพเกษตรกรรม แม่ค้าหาบเร่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อ หรือแรงงานรายวันที่ไม่มีระบบสวัสดิการ ซึ่งสามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุตั้งแต่ 15-60 ปี โดยใช้เอกสารหลักฐานเพียงบัตรประจำตัวประชาชนอย่างเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนกลุ่มนี้ได้สร้างระบบการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยรัฐบาลจะสมทบเงินให้ส่วนหนึ่งปีละไม่เกิน 13,200 บาท เมื่อออมจนเกษียณอายุ 60 ปี กองทุนจะจ่ายเงินบำนาญให้ทุกเดือนตลอดชีพ
สำหรับกองทุนการออมแห่งชาติมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ ซึ่งคาดว่ามีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ อาชีพเกษตรกรรม แม่ค้าหาบเร่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อ หรือแรงงานรายวันที่ไม่มีระบบสวัสดิการ ซึ่งสามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุตั้งแต่ 15-60 ปี โดยใช้เอกสารหลักฐานเพียงบัตรประจำตัวประชาชนอย่างเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนกลุ่มนี้ได้สร้างระบบการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยรัฐบาลจะสมทบเงินให้ส่วนหนึ่งปีละไม่เกิน 13,200 บาท เมื่อออมจนเกษียณอายุ 60 ปี กองทุนจะจ่ายเงินบำนาญให้ทุกเดือนตลอดชีพ