รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรี กำชับโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ สั่ง 3 ธนาคารพร้อม วันเปิด รับเลื่อนเป็น 20 ส.ค. ย้ำชาวบ้านใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็เพียงพอ
วันนี้ (2 ส.ค.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ติดตามและกำชับให้การดำเนินโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการผ่าน ธนาคารรัฐ 3 แห่ง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงไทย ให้มีความพร้อมมากที่สุด ทั้งระบบการให้บริการ การให้คำปรึกษาของเจ้าหน้าที่ และทดสอบระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เพื่อให้มีความสมบูรณ์และพร้อมให้บริการในวันเปิดโครงการ
“ในเบื้องต้นทราบว่า ธ.ก.ส. ได้มีการซักซ้อมอบรมเจ้าหน้าที่และทดสอบระบบแล้ว ขณะที่ธนาคารออมสินได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แล้ว และกำลังทดสอบระบบ รวมทั้งทำเรื่องชี้แจงไปยังธนาคารสาขา ทั้งนี้ คาดว่า วันเปิดโครงการจะเลื่อนจากกำหนดเดิมคือวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันที่ 20 ส.ค. เพื่อให้มีช่วงเวลาในการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างทั่วถึงครอบคลุมมากที่สุด” พลตรี สรรเสริญ กล่าว
พลตรี สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนการออมแห่งชาติ มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบบำเน็จบำนาญ ซึ่งคาดว่ามีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ อาชีพเกษตรกรรม แม่ค้าหาบเร่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อ หรือแรงงานรายวันที่ไม่มีระบบสวัสดิการ ซึ่งสามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุตั้งแต่ 15 - 60 ปี โดยใช้เอกสารหลักฐานเพียงบัตรประจำประชาชนใบเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนกลุ่มนี้ได้สร้างระบบการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณของตนเอง โดยรัฐบาลจะสมทบเงินให้ส่วนหนึ่ง ปีละไม่เกิน 13,200 บาท เมื่อออมจนเกษียณอายุ 60 ปี กองทุนจะจ่ายเงินบำนาญให้ทุกเดือนตลอดชีพ