กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล หรือ โอ๋ นักแบดมินตันหญิงคู่ วัย 31 ปี ที่ปัจจุบันจับคู่กับดวงอนงค์ อรุณเกษร รั้งคู่มือ 29 ของโลก โดยกุลชลาประกาศเลิกเล่นแบดมินตันอย่างเป็นทางการผ่านเฟซบุ๊ค โดยระบุว่ามีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่าเรื้อรังมานานหลายปี ประกอบกับอายุที่มากขึ้น จึงตัดสินใจเลิกเล่นในที่สุด
พร้อมตั้งความหวังว่าหญิงคู่ของรุ่นน้องอย่าง ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ พุธิตา สุภจิรกุล คู่มือ 15 ของโลก จะทำผลงานเพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกในปี 2559 แทนเธอได้ โดยหลังจากนี้จะผันตัวไปทำธุรกิจและเป็นผู้ฝึกสอนให้กับทีมยามาฮ่า แบดมินตัน คลับ พร้อมขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนในการเล่นแบดมินตันมาตลอด
กุลชลา เริ่มเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ติดทีมชาติไทยตอนอายุ 16 ปี ทำผลงานมาแล้วมากมาย โดยเคยจับคู่กับ ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ รั้งคู่มือ 6 ของโลก คว้าแชมป์เจแปน โอเพ่นซูเปอร์ซีรี่ส์ ในปี 2009, แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น กรังด์ ปรีซ์ โกลด์ 2011 และคู่ผสมประเทศไทยปี 2011
ส่วนประเภทหญิงคู่ จับคู่กับ ดวงอนงค์ อรุณเกษร จนขึ้นไปรั้งคู่มือ 4 ของโลก เมื่อปี 2011, เคยคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น ซูเปอร์ซีรี่ส์ ปี 2010 และเป็นแชมป์หญิงคู่ประเทศไทยถึง 7 สมัย
โดยกุลชลาประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า มีอาการเจ็บเข่าหลายปีแล้ว และเมื่อได้พักบ้างก็จะหาย แต่อาการเริ่มหนักขึ้นในช่วงฝึกซ้อมซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ จนเพิ่มขึ้นแทบจะเดินไม่ได้ จึงตัดสินใจเลิกเล่น เพราะไม่อยากให้ร่างกายแย่ไปกว่านี้ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการรักษาด้วยการผ่าตัดด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้คุยกับดวงอนงค์ตั้งแต่กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เกาหลีใต้ เมื่อปีก่อนแล้ว โดยย้ำว่า ไม่เสียดายที่ตัดสินใจเลิกเล่นในช่วงนี้ เพราะด้วยอายุที่มากขึ้น และสภาพร่างกายเช่นนี้ จึงคิดว่าถึงเวลาที่จะถอยออกมาจากวงการในบทบาทของนักกีฬา และพร้อมที่จะไปทำหน้าที่เป็นโค้ชสอนเยาวชนให้กับทีมยามาฮ่า ที่แฟนหนุ่ม “เงี้ยบ” สันติภาพ กวีนันทวงศ์ ดูแลอยู่ เช่นเดียวกับทีมแกรนนูลาร์ที่ตนสังกัด ขณะเดียวกันจะเริ่มเดินหน้าทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัวด้วย แต่ช่วงนี้ขอพักผ่อนซัก 1-2 เดือนก่อน
นอกจากนี้ กุลชลายังกล่าวขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่คุณพ่อ ไพบูลย์ วรวิจิตรชัยกุล พ่อผู้ซึ่งเป็นทุกอย่างของลูก ตามมาด้วย ครูแสงทอง บุญบำเพ็ญศีล ครูผู้เป็นโค้ชและสั่งสอนโอ๋มาจากนักแบดเยาวชน จนได้ก้าวมาเป็นทีมชาติเต็มตัว ต่อมาเมื่อได้ก้าวมาเป็นทีมชาติแล้วก็เป็น พี่สมพล ครูอุดม พี่ปราโมทย์ และสุดท้ายคือพี่โอ๊ค ศักระพี ทองสาริ โดยเฉพาะพี่โอ๊ค โค้ชคนนี้คือคนที่สร้างต่อยอดให้โอ๋ขึ้นไปยืนในท็อป 10 ของโลกได้ ต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยคือ พี่เจน เจน ปิยะทัต แห่งแกรนนูลาร์ ที่คอยสนับสนุนน้องคนนี้อย่างเต็มที่มาตลอด และก็ลืมไม่ได้เลยเหมือนกันคือขอบคุณเอสซีจี และสมาคมแบดมินตันไทย ที่ช่วยดูแลและส่งแข่งมายาวนาน
พร้อมตั้งความหวังว่าหญิงคู่ของรุ่นน้องอย่าง ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ พุธิตา สุภจิรกุล คู่มือ 15 ของโลก จะทำผลงานเพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกในปี 2559 แทนเธอได้ โดยหลังจากนี้จะผันตัวไปทำธุรกิจและเป็นผู้ฝึกสอนให้กับทีมยามาฮ่า แบดมินตัน คลับ พร้อมขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนในการเล่นแบดมินตันมาตลอด
กุลชลา เริ่มเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ติดทีมชาติไทยตอนอายุ 16 ปี ทำผลงานมาแล้วมากมาย โดยเคยจับคู่กับ ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ รั้งคู่มือ 6 ของโลก คว้าแชมป์เจแปน โอเพ่นซูเปอร์ซีรี่ส์ ในปี 2009, แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น กรังด์ ปรีซ์ โกลด์ 2011 และคู่ผสมประเทศไทยปี 2011
ส่วนประเภทหญิงคู่ จับคู่กับ ดวงอนงค์ อรุณเกษร จนขึ้นไปรั้งคู่มือ 4 ของโลก เมื่อปี 2011, เคยคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น ซูเปอร์ซีรี่ส์ ปี 2010 และเป็นแชมป์หญิงคู่ประเทศไทยถึง 7 สมัย
โดยกุลชลาประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า มีอาการเจ็บเข่าหลายปีแล้ว และเมื่อได้พักบ้างก็จะหาย แต่อาการเริ่มหนักขึ้นในช่วงฝึกซ้อมซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ จนเพิ่มขึ้นแทบจะเดินไม่ได้ จึงตัดสินใจเลิกเล่น เพราะไม่อยากให้ร่างกายแย่ไปกว่านี้ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการรักษาด้วยการผ่าตัดด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้คุยกับดวงอนงค์ตั้งแต่กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เกาหลีใต้ เมื่อปีก่อนแล้ว โดยย้ำว่า ไม่เสียดายที่ตัดสินใจเลิกเล่นในช่วงนี้ เพราะด้วยอายุที่มากขึ้น และสภาพร่างกายเช่นนี้ จึงคิดว่าถึงเวลาที่จะถอยออกมาจากวงการในบทบาทของนักกีฬา และพร้อมที่จะไปทำหน้าที่เป็นโค้ชสอนเยาวชนให้กับทีมยามาฮ่า ที่แฟนหนุ่ม “เงี้ยบ” สันติภาพ กวีนันทวงศ์ ดูแลอยู่ เช่นเดียวกับทีมแกรนนูลาร์ที่ตนสังกัด ขณะเดียวกันจะเริ่มเดินหน้าทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัวด้วย แต่ช่วงนี้ขอพักผ่อนซัก 1-2 เดือนก่อน
นอกจากนี้ กุลชลายังกล่าวขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่คุณพ่อ ไพบูลย์ วรวิจิตรชัยกุล พ่อผู้ซึ่งเป็นทุกอย่างของลูก ตามมาด้วย ครูแสงทอง บุญบำเพ็ญศีล ครูผู้เป็นโค้ชและสั่งสอนโอ๋มาจากนักแบดเยาวชน จนได้ก้าวมาเป็นทีมชาติเต็มตัว ต่อมาเมื่อได้ก้าวมาเป็นทีมชาติแล้วก็เป็น พี่สมพล ครูอุดม พี่ปราโมทย์ และสุดท้ายคือพี่โอ๊ค ศักระพี ทองสาริ โดยเฉพาะพี่โอ๊ค โค้ชคนนี้คือคนที่สร้างต่อยอดให้โอ๋ขึ้นไปยืนในท็อป 10 ของโลกได้ ต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยคือ พี่เจน เจน ปิยะทัต แห่งแกรนนูลาร์ ที่คอยสนับสนุนน้องคนนี้อย่างเต็มที่มาตลอด และก็ลืมไม่ได้เลยเหมือนกันคือขอบคุณเอสซีจี และสมาคมแบดมินตันไทย ที่ช่วยดูแลและส่งแข่งมายาวนาน
