การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้ (17 ก.ค.) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธาน เป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก เสนอหลักการและเหตุผล ว่า เพื่อกำหนดให้มีกำลังพลสำรองสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกระทรวงกลาโหม เพื่อกำหนดบุคคลที่จะเป็นกำลังพลสำรอง กำหนดสิทธิหน้าที่ในการเข้ารับราชการทหารให้ชัดเจน และเพื่อพัฒนากำลังพลสำรองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากกฎหมายบังคับใช้ จะเป็นการยกระดับกิจการกำลังพลสำรองให้เป็นงานระดับภาค ส่งผลให้กระทรวงกลาโหม มีความพร้อมด้านบุคคลากรมากขึ้น สามารถสนับสนุนส่วนราชการพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ลดความซ้ำซ้อนของหน่วยงานภาครัฐในการระดมกำลังพลของชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานและประเทศชาติในภาพรวม
ขณะที่การอภิปรายของสมาชิก สนช.เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินี้ แต่ยังเป็นห่วงแนวทางและการเรียกกำลังพลสำรอง อาจเกิดความซ้ำซ้อนส่งผลกระทบต่อการเกณฑ์ทหาร ซึ่งหลังการอภิปราย ที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 189 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ 19 คน แปรญัตติภายใน 15 วัน โดยมีกรอบเวลาการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก เสนอหลักการและเหตุผล ว่า เพื่อกำหนดให้มีกำลังพลสำรองสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกระทรวงกลาโหม เพื่อกำหนดบุคคลที่จะเป็นกำลังพลสำรอง กำหนดสิทธิหน้าที่ในการเข้ารับราชการทหารให้ชัดเจน และเพื่อพัฒนากำลังพลสำรองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากกฎหมายบังคับใช้ จะเป็นการยกระดับกิจการกำลังพลสำรองให้เป็นงานระดับภาค ส่งผลให้กระทรวงกลาโหม มีความพร้อมด้านบุคคลากรมากขึ้น สามารถสนับสนุนส่วนราชการพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ลดความซ้ำซ้อนของหน่วยงานภาครัฐในการระดมกำลังพลของชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานและประเทศชาติในภาพรวม
ขณะที่การอภิปรายของสมาชิก สนช.เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินี้ แต่ยังเป็นห่วงแนวทางและการเรียกกำลังพลสำรอง อาจเกิดความซ้ำซ้อนส่งผลกระทบต่อการเกณฑ์ทหาร ซึ่งหลังการอภิปราย ที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 189 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ 19 คน แปรญัตติภายใน 15 วัน โดยมีกรอบเวลาการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน