ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 13 ก.ค. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 217.27 จุด หรือ 1.22% ปิดที่ 17,977.68 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,099.60 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 73.81 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 5,071.51 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปที่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด หลังจากการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศกลุ่มยูโรโซน และบรรดารัฐมนตรีคลัง ใช้เวลานานกว่า 22 ชั่วโมง
นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ยอมรับเงื่อนไขปฏิรูปอันเข้มงวดต่างๆ ที่บรรดาเจ้าหนี้เรียกร้อง แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางการเงินครั้งที่ 3 ที่จะช่วยให้กรีซรออดพ้นจากการล้มละลาย และไม่ต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน
นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป กล่าวว่า ที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ขณะที่นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวว่า จะมีการใช้เงิน 2.5 หมื่นล้านยูโร เพื่อเพิ่มทุนแก่ธนาคารต่างๆของกรีซ
ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำยูโรโซนเผยอาจมีการอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโร (9.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้กับกรีซ หากรัฐบาลของนายอเล็กซิส ซิปราสยินยอมดำเนินการตามมาตรการรัดเข็มขัด
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปได้บรรลุข้อตกลงกันเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,155.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 52.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 57.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรายงานประจำเดือนของกลุ่มโอเปกระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 283,000 บาร์เรล สู่ระดับ 31.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปที่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด หลังจากการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศกลุ่มยูโรโซน และบรรดารัฐมนตรีคลัง ใช้เวลานานกว่า 22 ชั่วโมง
นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ยอมรับเงื่อนไขปฏิรูปอันเข้มงวดต่างๆ ที่บรรดาเจ้าหนี้เรียกร้อง แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางการเงินครั้งที่ 3 ที่จะช่วยให้กรีซรออดพ้นจากการล้มละลาย และไม่ต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน
นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป กล่าวว่า ที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ขณะที่นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวว่า จะมีการใช้เงิน 2.5 หมื่นล้านยูโร เพื่อเพิ่มทุนแก่ธนาคารต่างๆของกรีซ
ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำยูโรโซนเผยอาจมีการอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโร (9.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้กับกรีซ หากรัฐบาลของนายอเล็กซิส ซิปราสยินยอมดำเนินการตามมาตรการรัดเข็มขัด
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปได้บรรลุข้อตกลงกันเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,155.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 52.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 57.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรายงานประจำเดือนของกลุ่มโอเปกระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 283,000 บาร์เรล สู่ระดับ 31.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน
