เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เปิดเผยถึงกรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาคดีแพ่งให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กับพวกรวม 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) รวมเป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 3 ธ.ค. 2551 กรณีพาพวกปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ โดยศาลได้ออกใบสำคัญคดีถึงที่สุดแล้วว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา พร้อมทั้งยื่นฎีกาต่อศาลในคดีดังกล่าวแล้ว โดยอ้างเหตุสุดวิสัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ที่ระบุว่า เมื่อศาลเห็นสมควรหรือมีคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายนี้หรือตามที่ศาลกำหนดไว้ หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่น เพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาใดๆ ก่อนสิ้นระยะเวลานั้น แต่การขยายหรือย่นเวลาเช่นนี้ให้ทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย
นายสุวัตร กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่มีการปิดหมายศาลที่สำนักงานของตนนั้นเป็นวันหยุดทำการ และที่กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักรุนแรงมาก ประกอบกับตนได้มีนัดพบแพทย์อยู่หลายวันเพื่อตรวจเอ็กซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงเป็นเหตุสุดวิสัย เพื่อขอให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยคาดว่าศาลอาจจะมีคำสั่งภายใน 7 วัน ว่าจะอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการยื่นฎีกาได้หรือไม่ และจะรับฎีกาหรือไม่ต่อไป ส่วนในการบังคับคดีนั้นทราบว่าทางฝ่ายโจทก์ยังไม่ได้ขอใบบังคับคดีจากศาล และตนยังก็ไม่ได้รับใบสำคัญคดีถึงที่สุด
นายสุวัตร กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่มีการปิดหมายศาลที่สำนักงานของตนนั้นเป็นวันหยุดทำการ และที่กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักรุนแรงมาก ประกอบกับตนได้มีนัดพบแพทย์อยู่หลายวันเพื่อตรวจเอ็กซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงเป็นเหตุสุดวิสัย เพื่อขอให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยคาดว่าศาลอาจจะมีคำสั่งภายใน 7 วัน ว่าจะอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการยื่นฎีกาได้หรือไม่ และจะรับฎีกาหรือไม่ต่อไป ส่วนในการบังคับคดีนั้นทราบว่าทางฝ่ายโจทก์ยังไม่ได้ขอใบบังคับคดีจากศาล และตนยังก็ไม่ได้รับใบสำคัญคดีถึงที่สุด