นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยถึงข่าวการบริโภคเห็ดในช่วงหน้าฝนมาทำเป็นอาหารทั้งที่ไม่ทราบชนิดของเห็นว่าบริโภคได้หรือเห็ดมีพิษบริโภคไม่ได้ว่า ช่วงหน้าฝนประชาชนนิยมเก็บเห็ดป่าในธรรมชาติมารับประทาน ซึ่งเห็ดป่านั้นมีทั้งเห็ดที่กินได้และเห็ดพิษ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันจนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งเห็ดที่ทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ เห็ดระโงกพิษ บางแห่งเรียกว่า เห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดไข่ตายซาก มีความคล้ายคลึงกับเห็ดระโงกขาว หรือไข่ห่านที่สามารถกินได้ แต่เห็ดระโงกพิษจะมีก้านสูง มีกลิ่นเอียนและค่อนข้างแรง
ฉะนั้นเห็ดพิษชนิดนี้มีสารที่ทนต่อความร้อน แม้จะปรุงให้สุกดีแล้ว เช่น ต้ม แกง ก็ไม่สามารถทำลายสารพิษนั้นได้ นอกจากเห็ดระโงกพิษแล้ว ยังมีเห็ดป่าชนิดที่มีพิษรุนแรงอีกคือ เห็ดเมือกไครเหลือง และเห็ดหมวกจีนจะเป็นเห็ดที่คล้ายกับเห็ดโคนขนาดเล็กของบ้านเรา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเก็บเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงาก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อน ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมรี คล้ายไข่ มารับประทาน เนื่องจากจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ เพราะลักษณะดอกตูมภายนอกจะเหมือนกัน เมื่อกินเห็ดพิษเข้าไปแล้วจะทำผู้ป่วยให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเหลว ควรรีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติการกินเห็ด พร้อมกับตัวอย่างเห็ดพิษ (หากยังเหลืออยู่)
สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นให้ผู้ป่วย โดยการล้วงคอ หรือกรอกไข่ขาว เพื่อให้อาเจียนเอาเศษอาหารออกมาให้มากที่สุด จากนั้นรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และขอเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนกันยายนของทุกปี มักจะพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเห็ดพิษ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีนี้พบผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษแล้ว 170 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร สคร.5 จึงขอแนะหลีกเลี่ยงเก็บเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงาก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อน เนื่องจากจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ ห้ามกินเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้พิษเห็ดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ฉะนั้นเห็ดพิษชนิดนี้มีสารที่ทนต่อความร้อน แม้จะปรุงให้สุกดีแล้ว เช่น ต้ม แกง ก็ไม่สามารถทำลายสารพิษนั้นได้ นอกจากเห็ดระโงกพิษแล้ว ยังมีเห็ดป่าชนิดที่มีพิษรุนแรงอีกคือ เห็ดเมือกไครเหลือง และเห็ดหมวกจีนจะเป็นเห็ดที่คล้ายกับเห็ดโคนขนาดเล็กของบ้านเรา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเก็บเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงาก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อน ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมรี คล้ายไข่ มารับประทาน เนื่องจากจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ เพราะลักษณะดอกตูมภายนอกจะเหมือนกัน เมื่อกินเห็ดพิษเข้าไปแล้วจะทำผู้ป่วยให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเหลว ควรรีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติการกินเห็ด พร้อมกับตัวอย่างเห็ดพิษ (หากยังเหลืออยู่)
สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นให้ผู้ป่วย โดยการล้วงคอ หรือกรอกไข่ขาว เพื่อให้อาเจียนเอาเศษอาหารออกมาให้มากที่สุด จากนั้นรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และขอเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนกันยายนของทุกปี มักจะพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเห็ดพิษ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีนี้พบผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษแล้ว 170 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร สคร.5 จึงขอแนะหลีกเลี่ยงเก็บเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงาก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อน เนื่องจากจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ ห้ามกินเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้พิษเห็ดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว