นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซเมื่อวันศุกร์(3ก.ค.) เรียกร้องผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเมินข่าวปล่อยที่หวังกระพือความตื่นตระหนกของสหภาพยุโรปและโหวต "โน" ประชามติข้อตกลงช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ที้่โพลล่าสุดพบเสียงสนับสนุนแกว่งไปทาง "เยส" มากกว่าเล็กน้อย
ชาวกรีซจำนวนมาก ที่ต้องเดือดร้อนจากมาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มไม่เกิน 60 ยุโรต่อวัน เริ่มกังวลมากขึ้น เมื่อเหล่าผู้นำอียูเตือนว่าการโหวต "โน" หมายถึงกรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน และความรู้สึกดังกล่าวก็เข้าสู่ภาวะวิกฤตมากขึ้น หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศประกาศว่ากรีซกลายเป็นชาติพัฒนาแล้วชาติแรกซึ่งผิดนัดชำระหนี้พวกเขา
อย่างไรก็ตามนายซีปราส ยืนกรานว่าการตัดสินใจหยุดเจรจาหนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและประกาศลงประชามติไม่ได้หมายความว่าแยกตัวออกจากยุโรป ทั้งนี้เขาได้เรียกร้องเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ปรับโครงสร้างหนี้อันมโหฬาร 323,000 ล้านยูโร ด้วยการยกหนี้ให้ 30 เปอร์เซ็นต์และขอระยะเวลาระยะเวลาผ่อนผันปลอดดอกเบี้ย 20 ปี
ในผลสำรวจความเห็นคิดล่าสุดของ 2 สำนักโพลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ก.ค.) พบว่าเสียงสนับสนุนของทั้งสองฝ่ายออกมาคู่คี่สูสีอย่างมาก โดยผลสำรวจของสถาบันอัลโค พบว่ามีชาวกรีก 44.8 เปอร์เซ็นต์ที่ตั้งใจโหวต "เยส" และ 43.4 เปอร์เซ็นต์ตั้งใจโหวต "โน" ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมาเซโดเนียของกรีซที่เผยแพร่ผ่านบลูมเบิร์ก ออกมาเกือบเท่ากัน โดย 43 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าจะโหวต "โน" และโหวต "เยส" 42.5 เปอร์เซ็นต์
ชาวกรีซจำนวนมาก ที่ต้องเดือดร้อนจากมาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มไม่เกิน 60 ยุโรต่อวัน เริ่มกังวลมากขึ้น เมื่อเหล่าผู้นำอียูเตือนว่าการโหวต "โน" หมายถึงกรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน และความรู้สึกดังกล่าวก็เข้าสู่ภาวะวิกฤตมากขึ้น หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศประกาศว่ากรีซกลายเป็นชาติพัฒนาแล้วชาติแรกซึ่งผิดนัดชำระหนี้พวกเขา
อย่างไรก็ตามนายซีปราส ยืนกรานว่าการตัดสินใจหยุดเจรจาหนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและประกาศลงประชามติไม่ได้หมายความว่าแยกตัวออกจากยุโรป ทั้งนี้เขาได้เรียกร้องเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ปรับโครงสร้างหนี้อันมโหฬาร 323,000 ล้านยูโร ด้วยการยกหนี้ให้ 30 เปอร์เซ็นต์และขอระยะเวลาระยะเวลาผ่อนผันปลอดดอกเบี้ย 20 ปี
ในผลสำรวจความเห็นคิดล่าสุดของ 2 สำนักโพลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ก.ค.) พบว่าเสียงสนับสนุนของทั้งสองฝ่ายออกมาคู่คี่สูสีอย่างมาก โดยผลสำรวจของสถาบันอัลโค พบว่ามีชาวกรีก 44.8 เปอร์เซ็นต์ที่ตั้งใจโหวต "เยส" และ 43.4 เปอร์เซ็นต์ตั้งใจโหวต "โน" ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมาเซโดเนียของกรีซที่เผยแพร่ผ่านบลูมเบิร์ก ออกมาเกือบเท่ากัน โดย 43 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าจะโหวต "โน" และโหวต "เยส" 42.5 เปอร์เซ็นต์