นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้เร่งปรับปรุงท่าอากาศยานลำปางเพื่อเตรียมพร้อมรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสร็จมาทรงงานในพื้นที่จังหวัดลำปาง เดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ บริษัทผู้รับเหมาอาจจะต้องเคลียร์พื้นที่และจำเป็นต้องปิดถนนทางเข้าสนามบินทำความลำบากให้กับผู้ใช้บริการบ้าง ซึ่งผู้โดยสารทั้งวีไอพี และไม่ใช่วีไอพี ต้องอ้อมไปเข้าทางด้านหลัง โดยทางการท่าอากาศยานลำปางได้ทำแผนผังเส้นทางประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ขณะเดียวกัน ได้มีการปรับพื้นที่โดยรอบ พื้นที่จอดรถ และจะปิดถนนทางเข้าด้านหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปาง เป็นการชั่วคราวจนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จ ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางและผู้โดยสารบ้าง จากที่ได้พูดคุยและได้เร่งรัดกับบริษัทผู้รับเหมา ระบบทุกอย่างในสนามบิน โดยเฉพาะพื้นที่ทรงงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 15 กรกฎาคม หรือ อย่างช้าน่าจะก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทันรับเสร็จฯ ในวันที่ 18 สิงหาคม อย่างแน่นอน
นายเรืองยุทธ์ นิตยานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปาง กล่าวว่า ส่วนการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่และอาคารประกอบอื่นๆ ของท่าอากาศยานลำปางงบประมาณ 236.5 ล้านบาท ขณะนี้มีความคืบหน้าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยกรมการบินพลเรือนได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท ภู คอนสทรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2555 ก่อสร้างอาคารปั๊มน้ำระบบประปาและดับเพลิง อาคารศูนย์เครื่องมือกล อาคารดับเพลิง อาคารอาคารเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สำนักงาน ห้องผู้โดยสารขาเข้า ห้องผู้โดยสารขาออก และอาคารทรงงาน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ มีที่จอดรถอีกกว่า 100 คัน กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการผู้โดยสารจากจังหวัดลำปาง 2 บริษัท ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินนกแอร์ วันละ 12 เที่ยวบิน หลังจากเปิดใช้อาคารหลังใหม่ท่าอากาศยานลำปางแล้วจะสามารถรองรับสายการบินเพิ่มเป็น 3 แห่ง จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 เที่ยวบินต่อวัน และรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 200 คน ในอนาคตกรมการบินจะพิจารณาขยายรันเวย์ จากปัจจุบันที่มีความยาว 1,875 เมตร เป็น 2,100 เมตร เพื่อให้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นลงได้ เนื่องจากเห็นว่าจังหวัดลำปางมีศักยภาพด้านการคมนาคม สามารถรองรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้นครลำปางเป็นเมืองที่ต้อง ห้ามพลาด ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ภายใต้แนวคิดปีท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งจังหวัดลำปางได้ถูกจัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยว "ที่ไม่หมุนตามกาลเวลา"
ทั้งนี้ บริษัทผู้รับเหมาอาจจะต้องเคลียร์พื้นที่และจำเป็นต้องปิดถนนทางเข้าสนามบินทำความลำบากให้กับผู้ใช้บริการบ้าง ซึ่งผู้โดยสารทั้งวีไอพี และไม่ใช่วีไอพี ต้องอ้อมไปเข้าทางด้านหลัง โดยทางการท่าอากาศยานลำปางได้ทำแผนผังเส้นทางประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ขณะเดียวกัน ได้มีการปรับพื้นที่โดยรอบ พื้นที่จอดรถ และจะปิดถนนทางเข้าด้านหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปาง เป็นการชั่วคราวจนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จ ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางและผู้โดยสารบ้าง จากที่ได้พูดคุยและได้เร่งรัดกับบริษัทผู้รับเหมา ระบบทุกอย่างในสนามบิน โดยเฉพาะพื้นที่ทรงงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 15 กรกฎาคม หรือ อย่างช้าน่าจะก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทันรับเสร็จฯ ในวันที่ 18 สิงหาคม อย่างแน่นอน
นายเรืองยุทธ์ นิตยานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปาง กล่าวว่า ส่วนการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่และอาคารประกอบอื่นๆ ของท่าอากาศยานลำปางงบประมาณ 236.5 ล้านบาท ขณะนี้มีความคืบหน้าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยกรมการบินพลเรือนได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท ภู คอนสทรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2555 ก่อสร้างอาคารปั๊มน้ำระบบประปาและดับเพลิง อาคารศูนย์เครื่องมือกล อาคารดับเพลิง อาคารอาคารเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สำนักงาน ห้องผู้โดยสารขาเข้า ห้องผู้โดยสารขาออก และอาคารทรงงาน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ มีที่จอดรถอีกกว่า 100 คัน กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการผู้โดยสารจากจังหวัดลำปาง 2 บริษัท ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินนกแอร์ วันละ 12 เที่ยวบิน หลังจากเปิดใช้อาคารหลังใหม่ท่าอากาศยานลำปางแล้วจะสามารถรองรับสายการบินเพิ่มเป็น 3 แห่ง จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 เที่ยวบินต่อวัน และรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 200 คน ในอนาคตกรมการบินจะพิจารณาขยายรันเวย์ จากปัจจุบันที่มีความยาว 1,875 เมตร เป็น 2,100 เมตร เพื่อให้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นลงได้ เนื่องจากเห็นว่าจังหวัดลำปางมีศักยภาพด้านการคมนาคม สามารถรองรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้นครลำปางเป็นเมืองที่ต้อง ห้ามพลาด ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ภายใต้แนวคิดปีท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งจังหวัดลำปางได้ถูกจัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยว "ที่ไม่หมุนตามกาลเวลา"
