xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวไทยฉลุย 6 เดือน ยอด 14 ล้านคน คาดทั้งปีเติบโต้ 30 ล้านคน มีรายได้ 2.2 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกรัฐบาลยกตัวเลขนักท่องเที่ยว 6 เดือนฉลุย ยอดทะลุ 14 ล้านคน มีรายได้กว่า 6.6 แสนล้าน มั่นใจโรคเมอร์ส ปัญหา ICAO ไม่กระทบ คาดทั้งปีการท่องเที่ยวเติบโตตามเป้าหมาย 30 ล้านคน รายได้ 2.2 ล้านบาท

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวล่าสุดว่า ระหว่างวันที่ 1-21 มิถุนายน 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 1,562,959 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 53.6% ก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศ 70,376 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 56.7%

สำหรับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 21 มิถุนายน มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 14,011,600 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน 27.39% ก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศ 663,269 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น 27.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในปี 2558 สถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวให้เป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไทยภายใต้แคมเปญ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และยุโรปมีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวรวมเติบโตขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน ผลักดันรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นการระบาดของโรคเมอร์ส และปัญหาจากการที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ICAO ประกาศติดสัญลักษณ์ธงแดงหน้าชื่อของประเทศไทย คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะจากการสำรวจเบื้องต้น สถานการณ์ยังเป็นปกติ ยังไม่มีการยกเลิกจองที่พักหรือสายการบินเข้ามาในประเทศไทย

“กรณีของโรคระบาดเมอร์สท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างรัดกุมในการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็รับไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับปัญหา ICAO กระทรวงคมนาคม กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลโดยเร็วที่สุด”


กำลังโหลดความคิดเห็น