xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพเรียกร้องหัวหน้า คสช.ทบทวนคำสั่งย้ายเลขาฯ สปสช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และกรรมการหลักประกันสุขภาพ กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งย้ายนายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่า เนื่องจากระบบหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) ดำเนินการตามมติ บอร์ด สปสช.ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องสิทธิประโยชน์ จะต้องมีการหารือ กลั่นกรอง ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการโต้แย้งกับประธานบอร์ด ไม่ใช่ว่าหัวโต๊ะสั่งก็จะทำตาม ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ตั้งแต่หัวโต๊ะ คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด และกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วน ดังนั้นกรรมการทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการมีมติใด มติหนึ่งออกมา

ทั้งนี้ อยากให้หัวหน้า คสช.ทำงานด้วยระบบธรรมาภิบาลมากกว่านี้ ไม่ควรใช้อำนาจแบบเผด็จการสั่งการอะไรที่เป็นเหตุให้มีผลกระทบต่อการเข้าถึงการรักษาของคน 49 ล้านคน ในระบบหลักประกันสุขภาพ เพราะการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการย้ายเลขาธิการ สปสช.ซึ่งทำตามมติบอร์ดนั้น ต่อไปการบริหารงานในระบบหลักประกันสุขภาพจะเดินหน้าอย่างไร เพราะจะตีความอะไรก็เกรงอำนาจ คสช. ไม่กล้าทำอะไรที่กฎหมายเขียนเอาไว้ไม่ชัด แบบนี้เท่ากับเป็นการล้มระบบหลักประกันสุขภาพ เท่ากับทำให้คนไทย 49 ล้านคน มีความเสี่ยงที่จะกลับไปล้มละลายจากการเข้าถึงการรักษากันเหมือนในอดีต

ด้านแพทย์หญิงประชุมพร บูรณเจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) และประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า การย้ายนายแพทย์วินัย ถือเป็นเพียงจุดเริ่ม แต่ไม่ใช่สิ้นสุด เพราะนายแพทย์วินัย แม้จะเป็นเลขาธิการ สปสช. ทำหน้าที่บริหารกองทุน แต่ก็บริหารตามมติบอร์ด สปสช. ดังนั้น การจะหาคนรับผิดชอบต้องให้กรรมการอื่นๆ หรือสูงสุด คือประธานบอร์ด สปสช.หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายดีที่ขณะนี้ คสช.เห็นว่าการบริหารกองทุนที่ผ่านมามีปัญหาต่อระบบสุขภาพจริงๆ เพราะทำให้โรงพยาบาลเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง การบริหารกองทุนมีการใช้งบผิดประเภท เห็นได้จากการพิจารณาทั้ง คตร. และ ป.ป.ท.จึงต้องขอขอบคุณหัวหน้า คสช.ที่เล็งเห็นเรื่องนี้

วันเดียวกันนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ นำโดยนางสุริรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่ม ได้ออกแถลงการณ์ไว้อาลัยระบบหลักประกันสุขภาพ ยุค ม.44 โดยระบุว่า การสั่งย้ายเลขาธิการ สปสช.เป็นการใช้อำนาจของคนคนเดียวในยุคการยึดอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์มาแต่ต้น ในขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.เป็นกลไกสำคัญของการบริหารกองทุนบัตรทอง ซึ่งเป็นไปตามมติของบอร์ดฯ มีกฎหมายรองรับมาโดยตลอด ซึ่งตัวเลขาธิการฯ ก็ไม่ได้ทำผิดในเรื่องใด แม้จะมีการตรวจสอบการใช้เงินกองทุนโดยหน่วยงานหลายฝ่าย ซึ่งผลตรวจสอบเหมือนกันหมดว่าไม่ได้ทำผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายและออกกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนภายใต้อำนาจบอร์ดและภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจไว้

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จึงขอให้นายกรัฐมนตรี ผู้ออกคำสั่ง ได้พิจารณาทบทวน และให้เหตุผลในการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ภายใต้อำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จ ขอให้ตระหนักถึงสิ่งที่ต้องรักษาไว้ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับประชาชนเพียงใด การมีระบบหลักประกันสุขภาพที่มั่นคง เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตสำหรับทุกคน ไม่ว่ายากดีมีจน ทุกคนมีหลักประกันว่าจะไม่ต้องล้มละลายจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเป็นการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทันที สิ่งที่ท่านอ้างและยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อยึดอำนาจรัฐเพื่อปฏิรูปประเทศ การที่ท่านมุ่งมั่นเข้ามาทำหน้าที่นายกฯ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน จะไม่เป็นจริงหากขาดกลไกที่มีประสิทธิภาพ และมีความสมดุลในการใช้อำนาจ จึงขอเรียนมาเพื่อท่านโปรดพิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น