สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่ากรีซจะสามารถชำระหนี้ IMF ได้ตามกำหนดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้หรือไม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,171.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 25 มิ.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 75.71 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 17,890.36 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.27 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 2,102.31 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 10.22 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 5,112.19 จุด
หุ้นของบริษัทในกลุ่มสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี หลังจากศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯมีอำนาจในการอัดฉีดเงินประกันสุขภาพ ด้วยการให้เครดิตภาษีแก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในนโยบายโอบามาแคร์ ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา
อย่างไรก็ตาม หุ้นในภาพรวมลดลงหลังจาก การเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหน้าที่ต่างชาติ เพื่อขอเงินช่วยเหลือรอบใหม่ ประสบความล้มเหลวอีกครั้งในวันพฤหัสฯ ขณะที่เส้นตายชำระหนี้ในวันที่ 30 มิ.ย. กำลังใกล้เข้ามาแล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเจรจาระหว่างกรีซและรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันเสาร์นี้ หลังจากที่ประชุมเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 59.7 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 63.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 15,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.604 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,171.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 25 มิ.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 75.71 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 17,890.36 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.27 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 2,102.31 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 10.22 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 5,112.19 จุด
หุ้นของบริษัทในกลุ่มสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี หลังจากศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯมีอำนาจในการอัดฉีดเงินประกันสุขภาพ ด้วยการให้เครดิตภาษีแก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในนโยบายโอบามาแคร์ ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา
อย่างไรก็ตาม หุ้นในภาพรวมลดลงหลังจาก การเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหน้าที่ต่างชาติ เพื่อขอเงินช่วยเหลือรอบใหม่ ประสบความล้มเหลวอีกครั้งในวันพฤหัสฯ ขณะที่เส้นตายชำระหนี้ในวันที่ 30 มิ.ย. กำลังใกล้เข้ามาแล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเจรจาระหว่างกรีซและรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันเสาร์นี้ หลังจากที่ประชุมเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 59.7 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 63.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 15,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.604 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว