พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการพัฒนาการเชื่อมโยงระบบการขนส่งและการท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานหลังส่งคณะสำรวจพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชะอำ เบื้องต้นได้ข้อมูลในการเป็นท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง 5 จุด ในระดับหนึ่ง แต่ต้องเพิ่มเติมและพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง โดยจะสรุปผลในเดือนกรกฎาคมนี้ และนำเสนอฝ่ายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อขอให้มอบหมายกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะเป็นการร่วมทุนกับเอกชน (PPP) โดยรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน คือ ท่าเรือ ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณประจำปีของกรมเจ้าท่า ดำเนินการช่วงปี 2559-2560 ส่วนเอกชนลงทุนตัวเรือและบริหารสัมปทานไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดยประเมินว่าจะใช้เรือประมาณ 4-6 ลำ ลำละประมาณ 600-800 ล้านบาท รวมวงเงินลงทุนประมาณ 3,600-4,800 ล้านบาท โดยจากการศึกษาท่าเรือฝั่งตะวันออกที่เหมาะสม 2 แห่ง คือ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย (พัทยา) ท่าเรือจุกเสม็ด โดยได้มอบหมายให้ศึกษาความเหมาะสมของท่าเรือศรีราชาและท่าเรือแหลมฉบัง และนำข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบกันอีกครั้ง ส่วนฝั่งตะวันตก มี 3 แห่ง ผลสำรวจพบว่า ท่าเรือวัดไทรย้อย อำเภอชะอำ ท่าเรือร่องน้ำเขาตะเกียบ และท่าเรือปากน้ำปราณบุรี หากมีการเขื่อมโยงจะส่งให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นจากใช้เวลาเดินทางทางถนน ประมาณ 5 ชั่วโมง จะใช้เวลาเดินทางทางเรือเฟอร์รี่ประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะเป็นการร่วมทุนกับเอกชน (PPP) โดยรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน คือ ท่าเรือ ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณประจำปีของกรมเจ้าท่า ดำเนินการช่วงปี 2559-2560 ส่วนเอกชนลงทุนตัวเรือและบริหารสัมปทานไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดยประเมินว่าจะใช้เรือประมาณ 4-6 ลำ ลำละประมาณ 600-800 ล้านบาท รวมวงเงินลงทุนประมาณ 3,600-4,800 ล้านบาท โดยจากการศึกษาท่าเรือฝั่งตะวันออกที่เหมาะสม 2 แห่ง คือ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย (พัทยา) ท่าเรือจุกเสม็ด โดยได้มอบหมายให้ศึกษาความเหมาะสมของท่าเรือศรีราชาและท่าเรือแหลมฉบัง และนำข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบกันอีกครั้ง ส่วนฝั่งตะวันตก มี 3 แห่ง ผลสำรวจพบว่า ท่าเรือวัดไทรย้อย อำเภอชะอำ ท่าเรือร่องน้ำเขาตะเกียบ และท่าเรือปากน้ำปราณบุรี หากมีการเขื่อมโยงจะส่งให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นจากใช้เวลาเดินทางทางถนน ประมาณ 5 ชั่วโมง จะใช้เวลาเดินทางทางเรือเฟอร์รี่ประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ