นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมกลุ่มกรุงเทพเหนือเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ ครั้งที่ 1 โดยมีนายสัญญา จันทรัตน์ เลขานุการของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารเขตกลุ่มกรุงเทพเหนือ ประกอบด้วย เขตหลักสี่ จตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว ดอนเมือง สายไหม และเขตบางเขน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเปรมประชากร ชั้น 3 สำนักงานเขตหลักสี่ จากนั้นร องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำบริเวณคลองตาอูฐ เขตหลักสี่ เพื่อสำรวจปัญหาขยะติดหน้าตะแกรงสถานีสูบน้ำ พร้อมทั้งติดตามการทำงานของเครื่องสูบน้ำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้พร้อมรับสถานการณ์ฝน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การเตรียมพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนในกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมากและเป็นกลุ่มเขตสำคัญเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือตามซอย ชุมชน และหมู่บ้านต่างๆ มีอยู่ประมาณ 50 จุด ในพื้นที่ 7 เขต เฉลี่ยแล้วเขตละ 4-5 จุด ทั้งนี้ กรุงเทพเหนือเป็นกลุ่มเขตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งจากบทเรียนและประสบการณ์ที่ได้รับทำให้กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือทั้ง 7 เขต ได้เตรียมการป้องกันการเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำจากสาเหตุน้ำเหนือที่กำลังจะเข้ากรุงเทพมหานคร โดยได้พัฒนาคลองต่างๆจำนวนมากที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งบางเขตมีคลองมากถึง 30-40 คลอง โดยดำเนินการขุดลอกคลอง ดูดเลน เก็บขยะ วัสดุต่างๆที่อยู่ในคลองทั้งหมดเพื่อเปิดเส้นทางน้ำไหล ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือจะประสบความสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ซึ่งขณะนี้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 7 เขตได้ดำเนินการแบบมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมเฝ้าระวังและคอยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการในการดูแลสิ่งต่างๆในการเปิดทางน้ำ และคูคลอง เพื่อให้ระบบระบายน้ำปราศจากขยะและสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ ส่วนทางราชการก็มีช่องทางให้พี่น้องประชาชนได้ประสานงานติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่เขตได้เมื่อเกิดเหตุหรือปัญหา
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมวันนี้ได้รับรายงานว่าจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือที่มีอยู่ประมาณ 50 จุด ในพื้นที่ 7 เขตนั้น ทุกเขตได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากรเจ้าหน้าที่ที่เตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ความพร้อมด้านเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำสำรอง อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้แก้ไขปัญหา และช่องทางในการสื่อสารร่วมกับชุมชนและเจ้าหน้าที่เขตในการที่จะเข้าถึงจุดต่างๆภายใน 5-10 นาที ในแต่ละจุด
ทั้งนี้ เชื่อว่าในกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือหากสถานณ์ฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปกติ พี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยมาก แต่หากมีสถานการณ์น้ำเหนือเข้ามามากเหมือนปี 2554 ก็จะมีการเตรียมการและวางแผนการแก้ไขปัญหาต่อไปแต่คาดว่าเหตุการณ์เช่นปี 2554 คงไม่เกิดซ้ำ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การเตรียมพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนในกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมากและเป็นกลุ่มเขตสำคัญเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือตามซอย ชุมชน และหมู่บ้านต่างๆ มีอยู่ประมาณ 50 จุด ในพื้นที่ 7 เขต เฉลี่ยแล้วเขตละ 4-5 จุด ทั้งนี้ กรุงเทพเหนือเป็นกลุ่มเขตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งจากบทเรียนและประสบการณ์ที่ได้รับทำให้กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือทั้ง 7 เขต ได้เตรียมการป้องกันการเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำจากสาเหตุน้ำเหนือที่กำลังจะเข้ากรุงเทพมหานคร โดยได้พัฒนาคลองต่างๆจำนวนมากที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งบางเขตมีคลองมากถึง 30-40 คลอง โดยดำเนินการขุดลอกคลอง ดูดเลน เก็บขยะ วัสดุต่างๆที่อยู่ในคลองทั้งหมดเพื่อเปิดเส้นทางน้ำไหล ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือจะประสบความสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ซึ่งขณะนี้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 7 เขตได้ดำเนินการแบบมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมเฝ้าระวังและคอยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการในการดูแลสิ่งต่างๆในการเปิดทางน้ำ และคูคลอง เพื่อให้ระบบระบายน้ำปราศจากขยะและสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ ส่วนทางราชการก็มีช่องทางให้พี่น้องประชาชนได้ประสานงานติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่เขตได้เมื่อเกิดเหตุหรือปัญหา
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมวันนี้ได้รับรายงานว่าจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือที่มีอยู่ประมาณ 50 จุด ในพื้นที่ 7 เขตนั้น ทุกเขตได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากรเจ้าหน้าที่ที่เตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ความพร้อมด้านเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำสำรอง อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้แก้ไขปัญหา และช่องทางในการสื่อสารร่วมกับชุมชนและเจ้าหน้าที่เขตในการที่จะเข้าถึงจุดต่างๆภายใน 5-10 นาที ในแต่ละจุด
ทั้งนี้ เชื่อว่าในกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือหากสถานณ์ฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปกติ พี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยมาก แต่หากมีสถานการณ์น้ำเหนือเข้ามามากเหมือนปี 2554 ก็จะมีการเตรียมการและวางแผนการแก้ไขปัญหาต่อไปแต่คาดว่าเหตุการณ์เช่นปี 2554 คงไม่เกิดซ้ำ