นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมคือร้อยละ0-0.25 เป็นไปตามที่ตลาดส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้ และเนื้อหาของถ้อยแถลงไม่ต่างจากการประชุมในเดือนเมษายนที่ผ่านมามากนัก โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงแสดงมุมมองของนโยบายการเงินในทิศทางที่ผ่อนคลาย โดยระบุว่าช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อประกอบการตัดสินใจ และเห็นว่าตลาดให้ความสนใจกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกมากเกินไป
นอกจากนี้ ในการประชุมเฟดวานนี้ยังได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตที่ร้อยละ 1.8-2.0 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.3-2.7 และปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราการว่างงานในปีนี้ขึ้นเล็กน้อย จากเดิมที่ร้อยละ 5.0 -5.2 เป็นร้อยละ 5.2-5.3 ทำให้หลายฝ่ายยังคงต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมดังกล่าวได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลง ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นการเคลื่อนไหวในระดับปกติและสอดคล้องกับเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
นอกจากนี้ ในการประชุมเฟดวานนี้ยังได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตที่ร้อยละ 1.8-2.0 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.3-2.7 และปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราการว่างงานในปีนี้ขึ้นเล็กน้อย จากเดิมที่ร้อยละ 5.0 -5.2 เป็นร้อยละ 5.2-5.3 ทำให้หลายฝ่ายยังคงต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมดังกล่าวได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลง ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นการเคลื่อนไหวในระดับปกติและสอดคล้องกับเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
