ที่ศูนย์บริการประชาชน(ฝั่งก.พ.) นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ตัวแทนกลุ่มกลุ่มธรรมาภิบาล เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่อง ขอให้ตรวจสอบ เอาผิด พ.อ.เลิศเดช วิเศษศรีและพวก ที่ควบคุม ขืนใจคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างระบบกล้องซีซีทีวีโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการ Safe Zone School(CCTV) ของส.พ.ฐ.ให้เลือกบริษัทที่ที่เป็นพรรคพวกของตนเอง และขอให้ยกเลิกการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใสนี้นี้และเร่งให้มีการจัดซื้อใหม่โดยเร็วที่สุด โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชนเป็นผู้รับเรื่อง
โดยนาย วิวัฒน์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้รับข้อมูลจากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งระบบกล้องซีซีทีวีจากภาคใต้ว่า โครงการดังกล่าวนั้นมีการดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส โดยมีกลุ่มทหารจา กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กลุ่มหนึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการดังกล่าวได้มีพฤติการณ์ ชี้นำ ควบคุม และขืนใจให้กรรการจัดซื้อจัดจ้างในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 12 เขต เลือกบริษัทที่ตนเองต้องการ โดยแอบอ้างชื่อผู้ใหญ่ในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันว่าเป็นบริษัทของผู้ใหญ่ฝากมา ซึ่งส่งผลให้การพิจารณาคัดเลือกบริษัทดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ได้แก่ 1.บริษัท ทรานสมิชชั่น อินดรัสที จำกัด2.บริษัท เทคโน-ซายน์ จำกัด 3.บริษัท ลิบร้า เน็ตเวิร์ค แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
ทั้งนี้บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการจัดซื้อต้องทำสัญญาภายในวันที่ 29 พ.ค. 58 แต่ปรากฎว่ายังไม่ได้มีการทำสัญญาแต่อย่างใด เนื่องจากรรมการจัดซื้อจัดจ้างในเขตพื้นที่การศึกษา ไม่สบายใจกับการทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงที่มาเป็นกรรมการร่วมในครั้งนี้ คือ พ.อ.เลิศเดช วิเศษศรี หน.ศสท.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและพวกเนื่องจากเห็นพฤตกรรมที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเข้าข่ายกระทำผิด ว่าด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2552 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12
จากข้อเท็จจริงข้างต้น ถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่มีการกระทำผิดอย่างชัดแจ้งมีผู้รู้เห็นและกระทำร่วมกันหลายคนรวมถึงผู้ที่ตกอยู่ภายใต้การขืนใจให้ดำเนินการและไม่กล้าคัดค้านเพราะเกรงกลัวต่ออิธิพลต่อผู้กระทำ ดังนั้นจึงขอให้ท่านยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่งผลเสียหายในครั้งนี้โดยด่วนและเร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ที่ถูกต้องและโปร่งใสต่อไป ด้านผู้กระทำผิด ขอให้ท่านตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจนถึงที่สุดต่อไป
โดยนาย วิวัฒน์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้รับข้อมูลจากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งระบบกล้องซีซีทีวีจากภาคใต้ว่า โครงการดังกล่าวนั้นมีการดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส โดยมีกลุ่มทหารจา กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กลุ่มหนึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการดังกล่าวได้มีพฤติการณ์ ชี้นำ ควบคุม และขืนใจให้กรรการจัดซื้อจัดจ้างในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 12 เขต เลือกบริษัทที่ตนเองต้องการ โดยแอบอ้างชื่อผู้ใหญ่ในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันว่าเป็นบริษัทของผู้ใหญ่ฝากมา ซึ่งส่งผลให้การพิจารณาคัดเลือกบริษัทดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ได้แก่ 1.บริษัท ทรานสมิชชั่น อินดรัสที จำกัด2.บริษัท เทคโน-ซายน์ จำกัด 3.บริษัท ลิบร้า เน็ตเวิร์ค แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
ทั้งนี้บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการจัดซื้อต้องทำสัญญาภายในวันที่ 29 พ.ค. 58 แต่ปรากฎว่ายังไม่ได้มีการทำสัญญาแต่อย่างใด เนื่องจากรรมการจัดซื้อจัดจ้างในเขตพื้นที่การศึกษา ไม่สบายใจกับการทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงที่มาเป็นกรรมการร่วมในครั้งนี้ คือ พ.อ.เลิศเดช วิเศษศรี หน.ศสท.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและพวกเนื่องจากเห็นพฤตกรรมที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเข้าข่ายกระทำผิด ว่าด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2552 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12
จากข้อเท็จจริงข้างต้น ถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่มีการกระทำผิดอย่างชัดแจ้งมีผู้รู้เห็นและกระทำร่วมกันหลายคนรวมถึงผู้ที่ตกอยู่ภายใต้การขืนใจให้ดำเนินการและไม่กล้าคัดค้านเพราะเกรงกลัวต่ออิธิพลต่อผู้กระทำ ดังนั้นจึงขอให้ท่านยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่งผลเสียหายในครั้งนี้โดยด่วนและเร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ที่ถูกต้องและโปร่งใสต่อไป ด้านผู้กระทำผิด ขอให้ท่านตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจนถึงที่สุดต่อไป