ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาหนี้สินของกรีซอย่างใกล้ชิด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 1 มิ.ย. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 18,040.37 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 2,111.73 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 12.9 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 5,082.93 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ โดย ISM รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 51.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเม.ย.ขยายตัว 2.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
อนึ่ง ในสัปดาห์นี้มีข้อมูลเศรษฐกิจรอคิวเปิดเผยมากมายเช่น ยอดขายรถยนต์เดือนพ.ค. รายการจ้างงานเดือนพ.ค., การประชุมธนาคารกลางยุโรป และการประชุมกลุ่มประเทศโอเปก
น้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะยังไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันศุกร์นี้ และจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ -0.17 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 60.20 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล
ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 64.88 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ -0.09 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,188.70 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งตัวขึ้นต่อเนื่อง และท่าทีของเฟดที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 1 มิ.ย. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 18,040.37 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 2,111.73 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 12.9 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 5,082.93 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ โดย ISM รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 51.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเม.ย.ขยายตัว 2.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
อนึ่ง ในสัปดาห์นี้มีข้อมูลเศรษฐกิจรอคิวเปิดเผยมากมายเช่น ยอดขายรถยนต์เดือนพ.ค. รายการจ้างงานเดือนพ.ค., การประชุมธนาคารกลางยุโรป และการประชุมกลุ่มประเทศโอเปก
น้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะยังไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันศุกร์นี้ และจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ -0.17 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 60.20 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล
ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 64.88 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ -0.09 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,188.70 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งตัวขึ้นต่อเนื่อง และท่าทีของเฟดที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย