สำนักข่าวเกียวโด เปิดเผยผลการสำรวจ เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา ว่า ผู้ตอบแบบสำรวจชาวญี่ปุ่นราว ร้อยละ 81.4 มองว่ารัฐบาลยังไม่มีเหตุผลสมควรในการปฏิรูปกฎหมายด้านความมั่นคง ส่วนร้อยละ 68.0 มองว่า หากกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจะเพิ่มความเสี่ยงที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) จะก้าวเข้าสู่ภาวะสงคราม ขณะที่ร้อยละ 26.1 มองว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนผู้ตอบเพียง ร้อยละ 2.6 มองว่ากฎหมายดังกล่าว จะทำให้ความเสี่ยงลดลง
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะขยายขอบเขตปฏิบัติการในต่างแดนของกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) ที่รวมถึงการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองร่วม (collective self-defense) หลังการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะมีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อรัฐสภา โดยร่างกฎหมายฉบับใหม่จะอนุญาตให้กองกำลัง SDF สนับสนุนด้านโลจิสติกส์กับกองกำลังต่างชาติในปฏิบัติการรักษาสันติภาพทั่วโลก และอีกฉบับประกอบด้วย การปรับทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงที่มีอยู่แล้วจำนวน 10 ฉบับ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า จะประกาศใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวในฤดูร้อนนี้ แต่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐสภาใช้เวลาพิจารณาอย่างเพียงพอ เพื่อบรรเทาความวิตกของประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะขยายขอบเขตปฏิบัติการในต่างแดนของกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) ที่รวมถึงการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองร่วม (collective self-defense) หลังการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะมีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อรัฐสภา โดยร่างกฎหมายฉบับใหม่จะอนุญาตให้กองกำลัง SDF สนับสนุนด้านโลจิสติกส์กับกองกำลังต่างชาติในปฏิบัติการรักษาสันติภาพทั่วโลก และอีกฉบับประกอบด้วย การปรับทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงที่มีอยู่แล้วจำนวน 10 ฉบับ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า จะประกาศใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวในฤดูร้อนนี้ แต่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐสภาใช้เวลาพิจารณาอย่างเพียงพอ เพื่อบรรเทาความวิตกของประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว
