พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์พื้นที่ อ.เชียงของ ซึ่งเป็นชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยมีผู้เข้าร่วมรับการอบรมตามโรงการเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กลุ่มผู้ประกอบการรถและเรือยนต์รับจ้าง จำนวนประมาณ 300 คน กิจกรรมในโครงการมีการอบรมในหัวข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ สถานการณ์การค้ามนุษย์ใน จ.เชียงราย แนวทางประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และความสำคัญของภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์
พล.ต.ท.ศักดา กล่าวว่าพื้นที่เชียงของเป็นพื้นที่สำคัญในฐานะ 1 ใน ประตูหลักของประเทศที่จะเติบโตเป็นช่องทางการขนส่งตามแผนโครงสร้างระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศจีน กระนั้นนอกจากจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้วยังอาจจะมีการขยายตัวของอาชญากรและภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งกลายเป็นความเสี่ยงคู่ขนานตามมาอีกด้วยโดยเฉพาะในด้านอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ ดังนั้นทาง ตม.ในฐานะหน่วยงานที่ประจำอยู่ตามชายแดนจึงเห็นความสำคัญและเนื่องด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามเหตุต่างๆ ดังกล่าวมีขีดจำกัดจึงได้มีการจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายภาคประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญและแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าทาง ตม.เชียงแสน ซึ่งดูแลรับผิดชอบชายแดนตั้งแต่ อ.เชียงแสน-เชียงของ แจ้งว่าสำหรับชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ มีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนทำให้ในอดีตมีการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทางเรือเป็นสำคัญ ต่อมาในปี 2556 ได้มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ขึ้น ทำให้การเชื่อมโยงระหว่าง อ.เชียงของ กับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว สะดวกมากขึ้นและใน สปป.ลาว ยังมีถนนอาร์สามเอเชื่อมไทย-สปป.ลาว-มณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ได้อย่างสะดวกทำให้เกิดการเดินทางไปมาของผู้คนหลากหลายชาติเพิ่มมากขึ้นตามมา ซึ่งทาง ตม.ระบุว่าที่ผ่านตรวจพบการฝ่าฝืนกฎหมายต่างๆ มากขึ้น ทั้งการเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การแสวงหาประโยชน์จากคนต่างด้าวหรือค้ามนุษย์ การลักลอบขนยาเสพติด การกระทำผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.ต.ท.ศักดา กล่าวว่าพื้นที่เชียงของเป็นพื้นที่สำคัญในฐานะ 1 ใน ประตูหลักของประเทศที่จะเติบโตเป็นช่องทางการขนส่งตามแผนโครงสร้างระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศจีน กระนั้นนอกจากจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้วยังอาจจะมีการขยายตัวของอาชญากรและภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งกลายเป็นความเสี่ยงคู่ขนานตามมาอีกด้วยโดยเฉพาะในด้านอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ ดังนั้นทาง ตม.ในฐานะหน่วยงานที่ประจำอยู่ตามชายแดนจึงเห็นความสำคัญและเนื่องด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามเหตุต่างๆ ดังกล่าวมีขีดจำกัดจึงได้มีการจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายภาคประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญและแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าทาง ตม.เชียงแสน ซึ่งดูแลรับผิดชอบชายแดนตั้งแต่ อ.เชียงแสน-เชียงของ แจ้งว่าสำหรับชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ มีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนทำให้ในอดีตมีการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทางเรือเป็นสำคัญ ต่อมาในปี 2556 ได้มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ขึ้น ทำให้การเชื่อมโยงระหว่าง อ.เชียงของ กับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว สะดวกมากขึ้นและใน สปป.ลาว ยังมีถนนอาร์สามเอเชื่อมไทย-สปป.ลาว-มณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ได้อย่างสะดวกทำให้เกิดการเดินทางไปมาของผู้คนหลากหลายชาติเพิ่มมากขึ้นตามมา ซึ่งทาง ตม.ระบุว่าที่ผ่านตรวจพบการฝ่าฝืนกฎหมายต่างๆ มากขึ้น ทั้งการเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การแสวงหาประโยชน์จากคนต่างด้าวหรือค้ามนุษย์ การลักลอบขนยาเสพติด การกระทำผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม