เชียงราย - “พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ” เปิดศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์-อาชญากรรมข้ามชาติผ่านเส้นทาง R3a เตรียมพร้อมรับมืออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังเปิดเออีซี
วันนี้ (31 มี.ค.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อาเซียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานชายแดนต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ เส้นทางอาร์ 3 เอ ณ อาคารด่านพรมแดน สะพานข้ามแมน้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สปป.ลาว และผู้แทนจากประเทศจีนเข้าร่วมด้วย
จากนั้น พล.ต.อ.วุฒิได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ที่ด่านพรมแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บรรยายสภาพพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย ว่า การติดต่อสัมพันธ์กันระหว่าง 4 ประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง (จีเอ็มเอส) คือ ไทย สปป.ลาว พม่า และมณฑลยูนนาน ประเทศจีน นอกจากจะติดต่อเชื่อมโยงผ่านทาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ยังมีเส้นทางเชื่อมโยงผ่านทั้ง อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน
ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายพัฒนาให้ “เชียงแสนและเชียงของ” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตามกรอบความร่วมมือของเออีซี เพราะเชียงรายมีเส้นทางอาร์ 3 เอ ที่เชื่อมมาจากมณฑลยูนนานผ่าน สปป.ลาว เข้าสู่ประเทศไทย ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขง ก่อนมุ่งตรงไปยังกรุงเทพฯ เรียกว่า “คุนมั่น กงลู่” ระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร ซึ่งตั้งแต่มีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 57 พบปรากฏการณ์คาราวานนักท่องเที่ยวจากจีนพากันเดินทางด้วยรถยนต์และเรือแม่น้ำโขง ผ่านเข้ามาทางเชียงราย ไปท่องเที่ยวทางภาคเหนือของประเทศไทยจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ความคึกคักที่เกิดขึ้นในย่านนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงเรื่องการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะที่ผ่านมาเหยื่อของผู้ค้ามนุษย์มักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และยังมีปัญหาอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ การลักลอบค้ายาเสพติด เพราะเส้นทางคมนาคมสะดวกขึ้น ทำให้อาชญากรแอบปะปนมากับผู้คนและนักท่องเที่ยวทั่วไป เกิดการฟอกเงิน อาชญากรรมด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องคนต่างด้าวด้วย
ดังนั้น ในโอกาสที่ประชาคมอาเซียนจะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีอย่างเต็มตัวตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 58 คาดว่าจะมีประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจากจีนใช้เส้นทางอาร์ 3 เอ สะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เป็นจำนวนที่มากขึ้น จึงได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานขึ้น
และระยะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เริ่มมีผลปฏิบัติการบ้างแล้ว เช่น เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 57 ทาง ตม.เชียงแสนได้จับกุมตัวนาย Huang Ming-Chien สัญชาติไต้หวัน ที่มีพฤติกรรมจับตัวนายจ้างเรียกค่าไถ่ประมาณ 40 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับเงินจึงฆ่านายจ้าง แล้วนำข้อมูลของพี่ชายไปทำหนังสือเดินทางหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย วันที่ 21 ต.ค. 57 จับกุมตัวนาย Zhongwen Chen ชาวจีนที่มีหมายจับจากประเทศจีนที่ อ.เชียงแสน เป็นต้น
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า ศูนย์ประสานงานที่ตั้งขึ้นนี้มีเป้าหมายร่วมกันให้การช่วยเหลือผู้ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ในอนาคต รวมทั้งยังให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ร่วมสกัดกั้นอาชญากรที่แอบแฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ตลอดเส้นทางอาร์ 3 เอ ต่อไป
