นายคนิต ลิขิตวิทยุวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มีมติออกมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มทั้งระบบ ซึ่งมีทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ
โดยมาตรการเร่งด่วน ให้กรมการค้าภายในกำหนดราคาปาล์ม ครอบคลุมปาล์มทะลาย ผลปาล์มร่วง น้ำมันปาล์มดิบ เพื่อให้สำนักคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.) รับซื้อผลปาล์มทะลายและปาล์มร่วง ในราคาเดียวกัน ที่ 4.20 บาทต่อกิโลกรัม ในเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% โดยให้ลานเทหักค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งตามแต่ละพื้นที่
ส่วนปาล์มที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันสูงกว่า 17% โดยทุก 1% ที่เพิ่มขึ้น ขายได้ราคาเพิ่มอีก 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่วนผลปาล์มที่เปอร์เซนต์ต่ำกว่า 17% ทุก 1% จะลดราคา 25 สตางค์ รวมทั้งให้โรงกลั่นฯ ผลิตไบโอดีเซลและผู้ผลิตทั่วไป รับซื้อน้ำมันดิบราคาไม่ต่ำกว่า 26.20 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันพืชไม่สูงกว่าลิตรละ 42 บาท สิ้นสุดราคาดังกล่าวในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังจากนี้กำหนดให้เกษตรกรต้องขายปาล์มเปอร์เซ็นต์ไม่ต่ำกว่า 17%
ขณะที่มาตรการระยะสั้น 3 เดือน ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์ม เพื่อให้ได้ข้อมูลการผลิตที่ถูกต้อง ส่วนมาตรการระยะยาว เน้นการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์ม โดยหากปาล์มน้ำมันขายได้ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำมันปาล์มดิบต่ำกว่า 26.20 บาทต่อกิโลกรัม ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) แทรกแซงตลาดโดยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1 แสนตัน ในราคา 26.20 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน 2558 ใช้งบประมาณรวม 2,952 ล้านบาท
ปัจจุบันสต๊อกน้ำมันปาล์ม 250,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปริมาณที่ใช้ปกติที่ประมาณ 1 แสนตัน
นอกจากนี้ ที่ประชุม กนป.มอบหมายให้กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามและรายงานผลการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์ม ทุก 15 วัน
โดยมาตรการเร่งด่วน ให้กรมการค้าภายในกำหนดราคาปาล์ม ครอบคลุมปาล์มทะลาย ผลปาล์มร่วง น้ำมันปาล์มดิบ เพื่อให้สำนักคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.) รับซื้อผลปาล์มทะลายและปาล์มร่วง ในราคาเดียวกัน ที่ 4.20 บาทต่อกิโลกรัม ในเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% โดยให้ลานเทหักค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งตามแต่ละพื้นที่
ส่วนปาล์มที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันสูงกว่า 17% โดยทุก 1% ที่เพิ่มขึ้น ขายได้ราคาเพิ่มอีก 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่วนผลปาล์มที่เปอร์เซนต์ต่ำกว่า 17% ทุก 1% จะลดราคา 25 สตางค์ รวมทั้งให้โรงกลั่นฯ ผลิตไบโอดีเซลและผู้ผลิตทั่วไป รับซื้อน้ำมันดิบราคาไม่ต่ำกว่า 26.20 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันพืชไม่สูงกว่าลิตรละ 42 บาท สิ้นสุดราคาดังกล่าวในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังจากนี้กำหนดให้เกษตรกรต้องขายปาล์มเปอร์เซ็นต์ไม่ต่ำกว่า 17%
ขณะที่มาตรการระยะสั้น 3 เดือน ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์ม เพื่อให้ได้ข้อมูลการผลิตที่ถูกต้อง ส่วนมาตรการระยะยาว เน้นการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์ม โดยหากปาล์มน้ำมันขายได้ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำมันปาล์มดิบต่ำกว่า 26.20 บาทต่อกิโลกรัม ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) แทรกแซงตลาดโดยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1 แสนตัน ในราคา 26.20 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน 2558 ใช้งบประมาณรวม 2,952 ล้านบาท
ปัจจุบันสต๊อกน้ำมันปาล์ม 250,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปริมาณที่ใช้ปกติที่ประมาณ 1 แสนตัน
นอกจากนี้ ที่ประชุม กนป.มอบหมายให้กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามและรายงานผลการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์ม ทุก 15 วัน