เมื่อเวลา 15.30 น. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการติดตามคดีที่ สจล.ถูกลักทรัพย์กว่า 1,500 ล้านบาท หลังนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ถูกจับกุม โดยได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามคดี พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนพยานหลักฐาน เอกสารต่างๆ และยืนยันว่าไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด
สำหรับเนื้อหาของแถลงการณ์มีเนื้อหา ระบุว่า จากกรณีคดีลักทรัพย์เงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขณะนี้นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว โดยคาดว่าการจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญดังกล่าวมาดำเนินคดีจะทำให้คดีรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถาบันได้จัดตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมีหน้าที่ให้ความร่วมมือ ตลอดจนสนับสนุนพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ตามที่เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนร้องขอ ซึ่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม สจล.ภายใต้การบริหารของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. ยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใสในการบริหารงาน โดยมีจุดยืนที่จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สจล.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คดีดังกล่าวจะเดินไปด้วยความยุติธรรม และสามารถหาผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายได้โดยเร็ว
สำหรับคดีลักทรัพย์ สจล.มีผู้ต้องหาแล้ว 14 คน โดยมีผู้ร่วมกันปลอมเอกสารเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินคงคลังของ สจล.ที่เปิดไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ไปยังบัญชีของบุคคลต่างๆ เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ระหว่างปี 2555-2557 ซึ่งภายหลังเกิดเป็นคดีความ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ตัดสินใจมอบเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้กับ สจล.เพื่อบรรเทาความเสียหาย โดยนอกเหนือจากนายกิตติศักดิ์ แล้ว ยังคงมีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่อีก 2 คน
สำหรับเนื้อหาของแถลงการณ์มีเนื้อหา ระบุว่า จากกรณีคดีลักทรัพย์เงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขณะนี้นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว โดยคาดว่าการจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญดังกล่าวมาดำเนินคดีจะทำให้คดีรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถาบันได้จัดตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมีหน้าที่ให้ความร่วมมือ ตลอดจนสนับสนุนพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ตามที่เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนร้องขอ ซึ่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม สจล.ภายใต้การบริหารของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. ยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใสในการบริหารงาน โดยมีจุดยืนที่จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สจล.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คดีดังกล่าวจะเดินไปด้วยความยุติธรรม และสามารถหาผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายได้โดยเร็ว
สำหรับคดีลักทรัพย์ สจล.มีผู้ต้องหาแล้ว 14 คน โดยมีผู้ร่วมกันปลอมเอกสารเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินคงคลังของ สจล.ที่เปิดไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ไปยังบัญชีของบุคคลต่างๆ เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ระหว่างปี 2555-2557 ซึ่งภายหลังเกิดเป็นคดีความ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ตัดสินใจมอบเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้กับ สจล.เพื่อบรรเทาความเสียหาย โดยนอกเหนือจากนายกิตติศักดิ์ แล้ว ยังคงมีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่อีก 2 คน
