รก. แทนอธิการบดี สจล. เผยสอบภายในคดียักยอกยังไม่เจอใครเอี่ยวเพิ่ม ย้ำพร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเต็มที่ เผยประสาน บ.การเงินและบัญชีระดับโลกเข้ามาช่วยดูการเงิน ด้าน “ถวิล” ยันความบริสุทธิ์ไม่เอี่ยวยักยอก เผย ได้ตัว “กิตติศักดิ์” มาเชื่อจะทำให้สืบหาเส้นทางการเงินได้ชัด
วันนี้ (22 พ.ค.) รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทน รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคาร (เงินออม) ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าว และมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ซึ่งตนก็ได้เข้าไปที่กองปราบปราม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เปิดโอกาสให้ตนพบนายกิตติศักดิ์ ซึ่งตนได้สอบถามข้อมูลต่างๆ แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าสอบถามอะไรไปบ้าง เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินคดี ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากผลการสอบสวนพบว่ามีบุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจะไม่ปกป้องคนที่ทำผิดอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องเงินที่ถูกยักยอกไปและทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้นำเงินมาวางค้ำประกันให้กับ สจล. จำนวนเงิน 1,500 ล้านบาทนั้น หากการสอบสวนพบว่าความเสียหายมีมูลค่าน้อยกว่าวงเงินประกัน เงินส่วนต่างที่เหลือก็จะให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งเรื่องดังกล่าว ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. รับทราบเรื่องดังกล่าว ก็คงต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไป
ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ได้มอบให้ รศ.ดร.จำรูญ ซึ่งดูแลเรื่องดังกล่าวมาแต่ต้นประสานกับกองบังคับการกองปราบปราม ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานแล้วว่าได้เข้าไปพบ นายกิตติศักดิ์ ที่กองปราบปราม แต่ผู้ต้องหายังไม่ได้พูดอะไรมากนัก โดยตนได้ขอให้ย้ำไปกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ทาง สจล. ยินดีจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ส่วนการตรวจสอบภายในนั้น สจล. เองนั้น ยังไม่พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมนอกจาก นางอำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการกองคลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัว
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน ที่สจล.จะนำมาปรับปรุงระบบการจัดการการเงินและการบัญชีไม่ให้เกิดความบกพร่องอีก โดยขณะนี้ผมได้ประสานบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านการเงิน และบัญชีระดับโลกเข้ามาดูและระบบบัญชีของมหาวิทยาลัยแล้ว” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
ขณะที่ นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. หนึ่งในจำเลยที่พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินของ สจล. กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายกิตติศักดิ์ ได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้สามารถทราบถึงเส้นทางการเงินที่ชัดเจนว่าเงินหายไปไหน ใครเป็นคนเอาไป และจะได้จับผู้ที่อยู่ในกระบวนการยักยอกเงินจริงๆ ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่กังวลว่าจะถูกซักทอด แม้จะจับตัวนายกิตติศักดิ์ได้ ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน และวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ตนและผู้ที่ถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะไปให้การตามที่ศาลได้ นัดไต่สวนอีกครั้ง และคงไม่มีการเตรียมตัวอะไรมาก พร้อมจะให้การทุกอย่างตามความจริงทั้งหมด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.30 น. ได้มีแถลงการณ์แสดงจุดยืนของ สจล. หลังนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ถูกจับกุม มีเนื้อหาดังนี้ จากกรณีคดีลักทรัพย์เงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขณะนี้ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว โดยคาดว่าการจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญดังกล่าวมาดำเนินคดีจะทำให้คดีรุด หน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถาบันได้จัดตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวโดยมีหน้าที่ ให้ความร่วมมือตลอดจนสนับสนุนพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ตามที่เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนร้องขอซึ่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม สจล. ภายใต้การบริหารของ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. ยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใสในการบริหารงาน โดยมีจุดยืนที่จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สจล. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คดีดังกล่าวจะเดินไปด้วยความยุติธรรม และสามารถหาผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายได้โดยเร็ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
