การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 3 วันนี้ (18 พ.ค.) มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาเกี่ยวกับการระบายข้าวในสต๊อก 16 ล้านตัน จากโครงการรับจำนำข้าว และการตั้งผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการตรวจคุณภาพของข้าว
นางชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิยช์ เปิดเผยว่า ในการตรวจเบื้องต้นพบว่าในปริมาณข้าว 16 ล้านตันนั้น เป็นข้าวคุณภาพต่ำมากถึง 11 ล้านตัน ซึ่งจะมีต้นทุนการเก็บรักษาสูงกว่าราคาขาย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขายข้าวคุณภาพต่ำนี้ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภทแอลกอฮอลล์ หรือเอทานอล อย่างไรก็ตาม จะต้องได้ราคาที่ไม่ต่ำจนเกินไป
ส่วนข้าวที่มีคุณภาพดี คาดว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ จะสามารถขายได้เพิ่มอีก 2 ล้านตัน ที่ราคา 8,200 - 8,500 บาทต่อตัน คาดว่าหากขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวครบทั้งหมด จะได้เงินรวม 2 แสนล้านบาท จากต้นทุนรับซื้อเดิม 6 แสนล้านบาท เท่ากับว่าโครงการนี้สร้างความเสียหายให้รัฐบาลจำนวน 4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวที่เก็บไว้นอกคลัง จำนวน 4 คณะ โดยจะแบ่งตามภาคเพื่อตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือก และข้าวถุงจำนวนประมาณ 3-4 แสนตัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาน 3 เดือน ส่วนการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาที่จังหวัดพิจิตร ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการครบแล้ว
นางชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิยช์ เปิดเผยว่า ในการตรวจเบื้องต้นพบว่าในปริมาณข้าว 16 ล้านตันนั้น เป็นข้าวคุณภาพต่ำมากถึง 11 ล้านตัน ซึ่งจะมีต้นทุนการเก็บรักษาสูงกว่าราคาขาย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขายข้าวคุณภาพต่ำนี้ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภทแอลกอฮอลล์ หรือเอทานอล อย่างไรก็ตาม จะต้องได้ราคาที่ไม่ต่ำจนเกินไป
ส่วนข้าวที่มีคุณภาพดี คาดว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ จะสามารถขายได้เพิ่มอีก 2 ล้านตัน ที่ราคา 8,200 - 8,500 บาทต่อตัน คาดว่าหากขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวครบทั้งหมด จะได้เงินรวม 2 แสนล้านบาท จากต้นทุนรับซื้อเดิม 6 แสนล้านบาท เท่ากับว่าโครงการนี้สร้างความเสียหายให้รัฐบาลจำนวน 4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวที่เก็บไว้นอกคลัง จำนวน 4 คณะ โดยจะแบ่งตามภาคเพื่อตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือก และข้าวถุงจำนวนประมาณ 3-4 แสนตัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาน 3 เดือน ส่วนการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาที่จังหวัดพิจิตร ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการครบแล้ว