“พาณิชย์” ส่งหนังสือถึง สตช.เร่งปิดคดีข้าวในสต๊อกจำนวน 1.75 ล้านตัน ที่ผิดชนิด เสียหาย และเกรดซี ให้เสร็จภายใน มิ.ย. เพื่อนำมาเปิดระบายภายในเดือน ก.ค.นี้ เผยแม้จะนำมาระบาย แต่คดีอาญา คดีแพ่ง ก็ยังดำเนินต่อไป ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบ เตรียมร่วมวงประมูลชิงข้าวฟิลิปปินส์ 2-3 แสนตันที่จะเปิดประมูลอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ อคส.ประสานไปยังองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้เร่งสรุปคดีข้าวสารสต๊อกรัฐบาลในส่วนของข้าวผิดชนิด ข้าวเสียหาย และข้าวที่มีเกรดซีสัดส่วนน้อยกว่า 20% ของข้าวในโกดัง ซึ่งมีปริมาณรวม 1.75 ล้านตัน จาก 4 ล้านตัน ที่ได้แจ้งความต่อทางตำรวจไว้ โดยขอให้สรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2558 เพื่อที่จะนำมาเปิดระบายได้ภายในเดือน ก.ค. 2558
สำหรับข้าวที่ได้แจ้งความไว้มี 4 ล้านตัน จาก 186 โกดัง ซึ่งเดิมจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ส.ค. 2558 แต่กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้ อคส. และ อ.ต.ก.ส่งหนังสือแจ้งไปยัง สตช.เพื่อให้เร่งรัดปิดคดีข้าวใน 3 ส่วนนี้ก่อน มีปริมาณ 1.75 ล้านตัน คือ ข้าวผิดชนิดปริมาณ 5.4 หมื่นตัน ข้าวเสียหาย 6.53 แสนตัน และข้าวเกรดซีที่มีอยู่ในโกดังน้อยกว่า 20% อีกประมาณ 1 ล้านตัน ให้เสร็จภายใน มิ.ย .2558 เพื่อที่จะเร่งจัดการระบายโดยเร็ว
“หลังจากที่ตำรวจเก็บรวบรวมหลักฐาน และปิดคดีข้าวในส่วน 1.75 ล้านตันได้แล้วก็จะนำข้าวมาเปิดระบายต่อไป แต่ในส่วนคดีความอาญา อัยการจะเป็นผู้สั่งฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ เจ้าของโกดังและเซอร์เวเยอร์ ขณะที่ อคส.ก็จะเป็นผู้ฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนกลับมา โดยข้าวที่ผิดชนิดจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 100% ของมูลค่าข้าว ส่วนข้าวเสียหายและข้าวเกรดซีจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากส่วนต่างของราคาข้าวที่นำออกไปขายหักกับราคาตลาด ณ วันที่ขาย” นางจินตนากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำปี 2554/55 ปี 2555/56 เซอร์เวเยอร์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งปริมาณและคุณภาพ ส่วนข้าวสารที่ได้จากโครงการรับจำนำปี 2556/57 เจ้าของโกดังกลางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
สำหรับแนวทางการเปิดระบาย โดยข้าวในส่วนที่ผิดชนิดและข้าวเกรดซีมีอยู่ คาดว่าจะเปิดประมูลเป็นการทั่วไป เพราะยังเป็นข้าวที่มีคุณภาพและขายได้ราคา ส่วนข้าวเสียหายอาจต้องระบายผ่านผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้ผลิตเอทานอล
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า รัฐบาลฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวปริมาณ 2-3 แสนตัน ซึ่งไทยสนใจเข้าไปร่วมเสนอราคา เบื้องต้นมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันได้ เพราะสถานการณ์ราคาข้าวในขณะนี้ข้าวไทยไม่ได้มีราคาสูงกว่าคู่แข่งมากจนเกินไป ส่วนเงื่อนไขการเปิดประมูลต้องรอดูฟิลิปปินส์ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากครั้งก่อนมากนัก
พร้อมกันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะนำคณะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาเรื่องการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรถไฟ โดยจะหารือถึงรายละเอียดความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น และสรุปกรอบบันทึกความเข้าใจเรื่องการซื้อขายข้าวระหว่างกันปริมาณ 2 ล้านตันกำหนดส่งมอบ 2 ปี (2558-2559) และการหารือเพื่อแก้ปัญหาการส่งมอบข้าวปริมาณ 1 ล้านตันสำหรับสัญญาที่มีอยู่แล้วที่ขณะนี้ส่งมอบไปแล้ว 4 แสนตัน โดยไทยต้องการให้เร่งรัดการส่งมอบให้เร็วขึ้นเพื่อให้มีผลต่อราคาข้าวในประเทศสูงขึ้น