พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี ผลจากการปฏิบัติ ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย คือ นายนิอิดือเระ เจะแห อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/17 หมู่ที่ 5 ต.ลูโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ควบคุมตัวได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายอาชิ ดาโอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/4 หมู่ที่ 5 ต.ลูโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี และนายมูซอ แมรีวา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อ.วิเชษ แห้วขุดทด อายุ 43 ปี สังกัด บก.ตชด.44 ถูกยิงบริเวณต้นแขนซ้าย กระสุนฝังใน ทำให้กระดูกแตก ร.ท.นพพร มาระวิชัย อายุ 45 ปี สังกัด บก.ควบคุม 4 ถูกยิงบริเวณแขนขวา กระสุนไม่ฝังใน ไม่โดนกระดูก และ อส.ทพ.อำนวย ชูวงษ์ อายุ 30 ปี สังกัดร้อย ทพ.4309 ฉก.ทพ.43 ถูกยิงบริเวณหัวเข่าซ้ายทะลุ ไม่โดนกระดูก นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ล่าสุด อาการปลอดภัย
จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ เกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่หลายครั้ง อาทิ เหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่อำเภอมายอ เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555และเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียนพร้อมกัน 6 แห่ง ในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดงและอำเภอมายอ เมื่อ 12 ตุลาคม 2557
สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัว พบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิ.อาญา 2 หมาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดียวกับผู้ที่เสียชีวิต รวมทั้งเหตุปล้นเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อำเภอมายอ เมื่อ 30 พฤษภาคม 2556 ขณะที่นายมูซอ แมรีวา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุและให้แหล่งพักพิง จะทำการตรวจสอบความเชื่อมโยงต่อไป
สำหรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นการขยายผลเข้าติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตามขั้นตอนของกฎหมาย ด้วยการเชิญนายมูฮำหมัดอาดัม สามะ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดดารุลนาฮิม และนายรอหะ ตีโด ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ช่วยเจราจาเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัวและร่วมสังเกตการณ์ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง และในขณะที่นำผู้ต้องหาเข้าทำการตรวจค้นเพิ่มเติมและชี้จุดอาวุธปืนของกลางภายในบ้าน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของประกอบการดำเนินการด้านกฎหมาย บุคคลดังกล่าวได้หยิบอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทันที 3 นาย จึงมีความจำเป็นต้องหยุดยั้งเหตุการณ์ด้วยการยิงเพื่อป้องกันตัวออกไป 2 นัด จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว
พ.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้รับทราบเหตุการณ์ในเบื้องต้นแล้ว โดยได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งสร้างความเข้าใจให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นในการปฏิบัติ โดยมีผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน พร้อมกับให้ดูแลเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บให้ดีที่สุด
ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยเข้าไปสร้างความเข้าใจกับครอบครัวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าไปฉกฉวยโอกาสและบิดเบือนข้อเท็จจริงเหมือนหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวให้ใช้มาตรการทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนและทำลายความเชื่อมั่นในระบอบอำนาจรัฐ
จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ เกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่หลายครั้ง อาทิ เหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่อำเภอมายอ เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555และเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียนพร้อมกัน 6 แห่ง ในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดงและอำเภอมายอ เมื่อ 12 ตุลาคม 2557
สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัว พบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิ.อาญา 2 หมาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดียวกับผู้ที่เสียชีวิต รวมทั้งเหตุปล้นเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อำเภอมายอ เมื่อ 30 พฤษภาคม 2556 ขณะที่นายมูซอ แมรีวา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุและให้แหล่งพักพิง จะทำการตรวจสอบความเชื่อมโยงต่อไป
สำหรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นการขยายผลเข้าติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตามขั้นตอนของกฎหมาย ด้วยการเชิญนายมูฮำหมัดอาดัม สามะ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดดารุลนาฮิม และนายรอหะ ตีโด ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ช่วยเจราจาเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัวและร่วมสังเกตการณ์ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง และในขณะที่นำผู้ต้องหาเข้าทำการตรวจค้นเพิ่มเติมและชี้จุดอาวุธปืนของกลางภายในบ้าน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของประกอบการดำเนินการด้านกฎหมาย บุคคลดังกล่าวได้หยิบอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทันที 3 นาย จึงมีความจำเป็นต้องหยุดยั้งเหตุการณ์ด้วยการยิงเพื่อป้องกันตัวออกไป 2 นัด จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว
พ.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้รับทราบเหตุการณ์ในเบื้องต้นแล้ว โดยได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งสร้างความเข้าใจให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นในการปฏิบัติ โดยมีผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน พร้อมกับให้ดูแลเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บให้ดีที่สุด
ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยเข้าไปสร้างความเข้าใจกับครอบครัวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าไปฉกฉวยโอกาสและบิดเบือนข้อเท็จจริงเหมือนหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวให้ใช้มาตรการทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนและทำลายความเชื่อมั่นในระบอบอำนาจรัฐ
