xs
xsm
sm
md
lg

มือปืนโหดยิงเจาะกะโหลก 2 วัยรุ่นกาญจน์ดับคาถนนมอบตัวตำรวจแล้ว คุมตัวทำแผนหวิดวุ่น (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - มือปืนโหดดอดเข้ามอบตัวตำรวจแล้ว หลังขับรถยนต์กระบะยิงเจาะกะโหลก และหน้าอก 2 วัยรุ่นกาญจนบุรีดับสยองคาถนน หน้าตลาดพระแท่นดงรัง อ้างถูกระดมยิงก่อนจึงยิงสวนเพื่อป้องกันตัว หลังสารภาพตำรวจคุมตัวทำแผนหวิดวุ่น



ความคืบหน้ากรณีคนร้ายขับรถยนต์กระบะ ใช้อาวุธไล่ยิง นายศักดิ์ชัย หรือเติ้ล คล้ายมณี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/6 หมู่ 4 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กระสุนเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลมะการักษ์ ส่วน นายชายชล หรือเอ็ม เรืองฤทธิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านซ้าย 1 นัด กระสุนฝังในอาการโคม่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 2 มี.ค.58

หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.มานะ สำราญวงษ์ สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร.ต.ท.สมบูรณ์ ภัทรวงษ์วิเศษ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดีร่วมกับ พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ท.พิชัยพนธ์ ภักดีศิริเกษม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ไวโรจน์ แน่นพิมาย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย สว.สส. พ.ต.ต.อำนาจ ปรีชาวาท สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือ

ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (3 มี.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ท.พิชัยพนธ์ ภักดีศิริเกษม รอง ผกก.สส.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ท.ไวโรจน์ แน่นพิมาย รอง ผกก.ป.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย สว.สส.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ต.อำนาจ ปรีชาวาท สวป.สภ.ท่าเรือ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือ นำตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ คือ นายนที สาหร่าย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 3 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บ สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ 1610 กาญจนบุรี ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ และสำหรับหลบหนี พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณถนนหน้าตลาดพระแท่นดงรัง หมู่ 10 ต.พระแท่นดงรัง อ.ท่ามะกา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเสื้อเกราะกันกระสุนให้ผู้ต้องหาสวมใส่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น โดยมีญาติของผู้เสียชีวิต และประชาชนในพื้นที่มาดูขั้นตอนการทำแผนเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ

ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถปรากฎว่า เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีญาติของผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย พยายามวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหาพร้อมตะโกนด่าทอ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถกันตัวเอาไว้ได้

พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ เปิดเผยภายหลังว่า หลังก่อเหตุ นายนที ได้หลบหนีไป จากนั้นได้ติดต่อขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ ในเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้นำรถยนต์กระบะมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นั่งดื่มเหล้าปั่นอยู่กับหลานชาย และเพื่อนๆ ที่ร้านขายเหล้าปั่นริมถนนใกล้จุดเกิดเหตุ ประมาณ 5-6 คน ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปขึ้นรถยนต์กระบะเพื่อกลับบ้าน นายศักดิ์ชัย หรือเติ้ล คล้ายมณี อายุ 28 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาวเทา หมายเลขทะเบียน กค 9631 กาญจนบุรี กลับจากไปเที่ยวงานประจำปีวัดพระแท่นดงรังผ่านมา โดยมี นายสายชล หรือเอ็ม เรืองฤทธิ์ อายุ 23 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย

เมื่อทั้ง 2 เห็นกลุ่มผู้ต้องหา นายสายชล ที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้มือถืออาวุธปืนขึ้นมาโชว์ให้เห็น เมื่อรถวิ่งผ่านไปได้ไม่ไกล ทั้ง 2 จึงขับรถจักรยานยนต์วนกลับมาใหม่แล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 2 นัด ถูกกระบะด้านขวาทะลุ 2 รู ด้วยความตกใจทุกคนต่างก้มหลบลูกกระสุนกันจ้าละหวั่น

จากนั้น นายนที สาหร่าย ผู้ต้องหาจึงไปหยิบเอาอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ลูกโม่ ยิงสวนกลับไปจนหมดโม่ หลังก่อเหตุทุกคนต่างรีบขึ้นรถยนต์แล้วขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปทิ้งในพื้นที่อำเภอบางเลน จ.นครปฐม หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ (3 มี.ค.)

สำหรับ นายศักดิ์ชัย หรือเติ้ล ถูกยิงเข้าที่ใต้ราวนมซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนายสายชล สำหรับ หรือเอ็ม ถูกยิงเข้าที่หน้าผากกระสุนฝังใน 1 นัด เสียชีวิตลงในเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 2 มี.ค.

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐาน ปรากฏว่า รูกระสุนที่ยิงใส่รถยนต์กระบะ 2 รู น่าจะเป็นกระสุนปืนขนาด 9 มม. หรือ 11 มม.ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐาน ส่วนอาวุธปืนขนาด .38 ที่นายสายชล ถือเอาไว้พบว่ากระสุนยังบรรจุอยู่เต็มรังเพลิง ยังไม่ได้ยิงแม้แต่นัดเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนสาเหตุผู้ต้องหาให้การว่า ไม่เคยรู้จักกันกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายมาก่อน แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย อาจจะเคยมีเรื่องกับคนใดคนหนึ่งที่นั่งดื่มเหล้าปั่นอยู่ด้วยกัน และหลังจากกลุ่มผู้เสียชีวิตยิงปืนใส่ จึงตัดสินใจนำเอาอาวุธปืนยิงสวนเพื่อป้องกันตัว เพราะไม่เช่นนั้นตนอาจจะเป็นคนถูกยิงเสียชีวิตก็เป็นได้




กำลังโหลดความคิดเห็น