สถานการณ์ในบุรุนดีตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน หลังนายพลรายหนึ่งแถลงเมื่อวันพุธ(13พ.ค.) ขับไล่ประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคูรันซิซา ที่แสวงหานั่งเก้าอี้สมัย 3 อย่างไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ เผยกำลังร่วมมือกับกลุ่มประชาสังคมจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน แต่ทางผู้นำยังไม่ยอมจำนน รุดเดินทางกลับจากร่วมซัมมิทแอฟริกาและอ้างว่าความพยายามรัฐประหารล้มเหลว
แม้พบเห็นฝูงชนหลั่งไหลขึ้นไปบนท้องถนนในกรุงบูจุมบูรา ส่งเสียงเชียร์และยิงปืนเฉลิมฉลองภายในตัวเมือง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้ให้การสนับสนุนมากน้อยแต่ไหนต่อการก่อรัฐประหารที่นำโดยพลตรีโกดโฟรอิด ไนโยเอ็มบาเร ซึ่งเพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีของเอ็นคูรันซิซา รุดออกมาปฏฺิเสธคำแถลงของพลตรีไนโยเอ็มบาเรในทันที
"เรามองว่ามันเป็นเรื่องตลก ไม่ใช่รัฐประหาร" นายวิลลี ไนยามิตเว ผู้ช่วยประธานาธิบดีบอกกับรอยเตอร์ ส่วนถ้อยแถลงบนหน้าเฟซบุ๊กของประธานาธิบดีระบุว่าความพยายามก่อรัฐประหารนั้นล้มเหลว ขณะเดียวกันก็มีคำยืนยันจากโฆษกรัฐบาลแทนซาเนีย ระบุว่าประธานาธิบดีเอ็นคูรันซิซา ที่อยู่ระหว่างร่วมประชุมฉุกเฉินระดับภูมิภาคร่วมกับผู้นำชาติต่างๆในแทนซาเนีย ได้บินด่วนกลับบุรุนดีในทันที หลังพลตรีไนโยเอ็มบาเรแถลงรัฐประหาร
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมานายพลไนโยเอ็มบาเร ได้สั่งปิดท่าอากาศยานในกรุงบูจุมบูรา รวมถึงแนวชายแดนทางภาคพื้น เพื่อสกัดความพยายามบินกลับประเทศของประธานาธิบดีเอ็นคูรันซิซา "ผมออกคำสั่งปิดสนามบินและชายแดน และขอเรียกร้องพลเมืองทุกคนและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไปยังนามบินเพื่อปกป้องมัน" เขาแถลงผ่านสถานีวิทยุ
ก่อนหน้านี้พลตรีไนโยเอ็มบาเร ได้ประกาศยึดอำนาจกับบรรดาผู้สื่อข่าว ณ ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงบูจุมบูรา หลังเกิดการประท้วงยืดเยื้อมานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อต่อต้านความพยายามแสวงหาหนทางคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัย 3 ของนายเอ็นคูรันซิซา
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเวลานี้อำนาจอยู่ในมือของฝ่ายใด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตอนนี้สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ซึ่งบ่อยครั้งเป็นเป้าหมายสำคัญลำดับต้นๆของการยึดอำนาจรัฐในแอฟริกา ถูกล้อมกรอบโดยทหาร โดยพนักงานรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่าพวกทหารพยายามบุกเข้าไปภายใน แต่ถูกขัดขืนจากคนอื่นๆ
แม้พบเห็นฝูงชนหลั่งไหลขึ้นไปบนท้องถนนในกรุงบูจุมบูรา ส่งเสียงเชียร์และยิงปืนเฉลิมฉลองภายในตัวเมือง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้ให้การสนับสนุนมากน้อยแต่ไหนต่อการก่อรัฐประหารที่นำโดยพลตรีโกดโฟรอิด ไนโยเอ็มบาเร ซึ่งเพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีของเอ็นคูรันซิซา รุดออกมาปฏฺิเสธคำแถลงของพลตรีไนโยเอ็มบาเรในทันที
"เรามองว่ามันเป็นเรื่องตลก ไม่ใช่รัฐประหาร" นายวิลลี ไนยามิตเว ผู้ช่วยประธานาธิบดีบอกกับรอยเตอร์ ส่วนถ้อยแถลงบนหน้าเฟซบุ๊กของประธานาธิบดีระบุว่าความพยายามก่อรัฐประหารนั้นล้มเหลว ขณะเดียวกันก็มีคำยืนยันจากโฆษกรัฐบาลแทนซาเนีย ระบุว่าประธานาธิบดีเอ็นคูรันซิซา ที่อยู่ระหว่างร่วมประชุมฉุกเฉินระดับภูมิภาคร่วมกับผู้นำชาติต่างๆในแทนซาเนีย ได้บินด่วนกลับบุรุนดีในทันที หลังพลตรีไนโยเอ็มบาเรแถลงรัฐประหาร
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมานายพลไนโยเอ็มบาเร ได้สั่งปิดท่าอากาศยานในกรุงบูจุมบูรา รวมถึงแนวชายแดนทางภาคพื้น เพื่อสกัดความพยายามบินกลับประเทศของประธานาธิบดีเอ็นคูรันซิซา "ผมออกคำสั่งปิดสนามบินและชายแดน และขอเรียกร้องพลเมืองทุกคนและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไปยังนามบินเพื่อปกป้องมัน" เขาแถลงผ่านสถานีวิทยุ
ก่อนหน้านี้พลตรีไนโยเอ็มบาเร ได้ประกาศยึดอำนาจกับบรรดาผู้สื่อข่าว ณ ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงบูจุมบูรา หลังเกิดการประท้วงยืดเยื้อมานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อต่อต้านความพยายามแสวงหาหนทางคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัย 3 ของนายเอ็นคูรันซิซา
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเวลานี้อำนาจอยู่ในมือของฝ่ายใด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตอนนี้สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ซึ่งบ่อยครั้งเป็นเป้าหมายสำคัญลำดับต้นๆของการยึดอำนาจรัฐในแอฟริกา ถูกล้อมกรอบโดยทหาร โดยพนักงานรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่าพวกทหารพยายามบุกเข้าไปภายใน แต่ถูกขัดขืนจากคนอื่นๆ