ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดพื้นที่ เพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการสร้างเขื่อนตลอดแนวพื้นที่ และเหนือแนวเขื่อนให้จัดเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้ประชาชนสามารถพักผ่อน ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่างๆ ขณะที่ใต้แนวเขื่อนให้ก่อสร้างท่อระบายน้ำ เพื่อนำน้ำออกสู่ทะเล และป้องกันปัญหาอุทกภัยในอนาคต โดย ครม.ให้ความเห็นชอบ 3 ส่วน คือ 1.การดำเนินงานตามกรอบเวลา โดยใช้เวลาก่อสร้าง 18เดือน 2.มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ดูเรื่องการขอใช้พื้นที่ริมน้ำ การก่อสร้าง และสิ่งก่อสร้างที่ล่วงล้ำลำน้ำตามระเบียบก่อสร้างของเจ้าท่า ให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเรื่องการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และพื้นที่โครงการที่อยู่ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ให้กรมที่ดินดูเรื่องรังวัดแนวเขต ให้กรมทางหลวงชนบทดูเรื่องการขอใช้พื้นที่สะพานพระราม 7 สะพานกรุงธน และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ให้ กทม.ดูเขตท่าเรือสาธารณะ ท่าเรือเอกชนในการรื้อถอน สร้างใหม่ และให้กระทรวงมหาดไทยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทางสำนักพระราชวังในการดำเนินการผ่านวังสุโขทัย วังเทเวศร์ และท่าวาสุกรี ทั้งนี้ ครม.เห็นชอบกรอบวงเงินดำเนินการเบื้องต้น 14,006 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พักอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาจะมีการจัดสรรพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำบริเวณหน้าบ้านตนเองได้ และการจัดสรรดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำ สร้างพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนพักผ่อน และสามารถรับชมพระราชพิธี และกิจกรรมต่างๆได้สะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พักอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาจะมีการจัดสรรพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำบริเวณหน้าบ้านตนเองได้ และการจัดสรรดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำ สร้างพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนพักผ่อน และสามารถรับชมพระราชพิธี และกิจกรรมต่างๆได้สะดวกมากขึ้น