ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้นำตัว น.ส.บุศราทิพย์ ยะพะเยาว์ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 24 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน และ น.ส.สิริพิชชามญจชุ์ วงค์กาไชย อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 64 ม.3 ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.78/2558 ลงวันที่ 28 เมษายน 2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และหลอกว่าจัดหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศ และโดยการหลอกลวงได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง มาสอบสวนหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายกว่า 40 คน ที่หลงเชื่อได้สมัครทำงานผ่านการประสานงานจากทั้ง 2 คน และได้จ่ายเงินไปคนละ 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินเรื่องและเป็นธุระในการเดินทาง แต่หลังจากจ่ายเงินแล้วเมื่อใกล้กำหนดเวลาจะเดินทางไปทำงานกลับถูกบ่ายเบี่ยงและเลื่อนการเดินทางมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมาจึงได้แจ้งร้องเรียนมายังตำรวจกองปราบปราม จึงได้สืบสวนจนทราบตัวกลุ่มผู้กระทำผิดจึงได้ขอหมายศาลติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป โดยเบื้องต้นทั้งสองคน ให้การสารภาพ
ด้าน ร.ต.ท.นิรันดร วุฒิเอก หัวหน้าทีมจับกุม กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าว ได้หลอกลวงชักจูงให้แรงงานที่เดินทางมาทำงานนิคมอุตสาหกรรมลำพูน และในพื้นที่ จ.เชียงรายที่สนใจไปทำงานต่างประเทศ และชักชวนแบบปากต่อปากให้มาสมัคร โดยกล่าวอ้างว่ามีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่กรมแรงงาน และจะส่งไปได้โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายไปแล้ว คนละ 5 หมื่นเป็นค่าเดินเอกสาร ขอกู้เงินธนาคาร ค่าตรวจโรค และอื่นๆ ก่อนเดินทางไป โดยมีคนทยอยมาสมัครรวมแล้วพื้นที่ 2 จังหวัดกว่า 40 คน ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา แต่ไม่สามารถส่งไปได้อย่างที่กล่าวงอ้างและได้เลื่อนผัดผ่อนมาโดยตลอดจนแรงงานมราสมัครเข้าแจ้งความร้องเรียนจึงสืบสวนพบว่า กระทำความผิดจริงเข้าข่ายการหลอกลวง จึงขอหมายจับมาดำเนินคดีดังกล่าว นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูนส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
ด้าน ร.ต.ท.นิรันดร วุฒิเอก หัวหน้าทีมจับกุม กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าว ได้หลอกลวงชักจูงให้แรงงานที่เดินทางมาทำงานนิคมอุตสาหกรรมลำพูน และในพื้นที่ จ.เชียงรายที่สนใจไปทำงานต่างประเทศ และชักชวนแบบปากต่อปากให้มาสมัคร โดยกล่าวอ้างว่ามีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่กรมแรงงาน และจะส่งไปได้โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายไปแล้ว คนละ 5 หมื่นเป็นค่าเดินเอกสาร ขอกู้เงินธนาคาร ค่าตรวจโรค และอื่นๆ ก่อนเดินทางไป โดยมีคนทยอยมาสมัครรวมแล้วพื้นที่ 2 จังหวัดกว่า 40 คน ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา แต่ไม่สามารถส่งไปได้อย่างที่กล่าวงอ้างและได้เลื่อนผัดผ่อนมาโดยตลอดจนแรงงานมราสมัครเข้าแจ้งความร้องเรียนจึงสืบสวนพบว่า กระทำความผิดจริงเข้าข่ายการหลอกลวง จึงขอหมายจับมาดำเนินคดีดังกล่าว นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูนส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
