xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.ลั่น! ดำเนินการเชิงรุกปราบค้ามนุษย์ ขยายผลจับกุมทั้งขบวนการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รอง ผบ.ตร. ประชุมกำหนดแนวทางการปราบปรามค้ามนุษย์ ยืนยันตำรวจจะดำเนินการเชิงรุก ปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง พร้อมขยายผลจับกุมให้ได้ทั้งขบวนการ

วันนี้ (20 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) เป็นประธานการประชุมกำหนดแนวทางการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

พล.ต.อ.เอก กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ตนให้สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะรวบรวมประเมินผลการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันและการปราบปรามการค้ามนุษย์ในหน่วยต่างๆในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาให้ดำเนินการเพื่อรวบรวมผลการปฏิบัติและรายงานผู้บังคับบัญชาระดับนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการ ได้รับทราบผลการดำเนินการของตำรวจในการที่ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้เรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ โดยบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เน้นย้ำในส่วนของภูมิภาคตามจังหวัดต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตร โดยกรมประมงที่จะต้องดำเนินการให้ได้ผลอย่างจริงจัง

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประกาศครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อห่วงใย และได้กล่าวถึงในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เช่น กรณีที่ตลาดไท แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีหลังจากที่นายกฯ ได้กล่าวถึง ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งกำชับการปฏิบัติของ ผบช.ภ.1 ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี บูรณาทุกหน่วยงาน มีผลการปฏิบัติอย่างจริงจังในการดำเนินการภายใต้แนวความคิดในเรื่องของการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาดในพื้นที่ตลาดไทดังกล่าว ภายใต้แนวคิดตลาดไทสีขาว ซึ่งก็คงจะเป็นรูปแบบหนึ่งถึงการปฏิบัติงานจริงจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” รอง ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ในหลายๆพื้นที่เสี่ยงและมีปัญหาที่สำคัญ ยกตัวอย่างบริเวณใน 3 จังหวัดชายแดนทางด้านทิศตะวันตก เช่น ชุมพร ระนอง พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงในการหลบหนีของชาวโรฮิงญา ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ที่ปรึกษา (สบ10) มีรายงานความคืบหน้าของการสืบสวนขยายผล มาตรการต่างๆ ความชัดเจน และก็การสืบสวนสอบสวนของการดำเนินคดีไปยังผู้เกี่ยวข้อง มีการประสานขอความร่วมมือเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ก็มั่นใจว่ามาตรการต่างๆทุกหน่วยได้ตอบรับการปฏิบัติเป็นอย่างดี และ ผบ.ตร.จะมีการสรุปรายงานผลการปฏิบัติในภาพรวมทุกเรื่องให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบในส่วนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีพื้นที่ใดที่ยังสุ่มเสี่ยงที่จะต้องขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ขอยืนยันว่า การขับเคลื่อนในภาพรวมทั้งหมด ตามมาตรการแนวทางที่เคยพูดไว้ คือ 1. เรื่องการดำเนินคดสืบสวนสอบสวนขยายผล 2. การป้องกันและการปราบปรามในเรื่องใหญ่ 4 เรื่อง คือ การค้าประเวณี แรงงานผิดกฎหมายทั้งภาคเกษตรอุตสาหกรรมประมง การจัดระเบียบขอทาน และชาวโรฮิงญา ซึ่งเวลานี้ยืนยันได้จากรายงาน มาตรการในเชิงรุกในการป้องกันค่อนข้างได้ผล อย่างไรก็ตาม ถ้ายังมีการกระทำความผิด ก็มีการปราบปรามและการขยายผลในการดำเนินการ ส่วนในบางกรณีซึ่งมีเพียงปรากฏเป็นรายงานข่าว ก็จะให้ทางฝ่ายข่าวและหน่วยพิเศษไปดำเนินการภายใต้การควบคุมของ พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทั้งนี้ ก็ยังยืนยันว่ายังไม่มีอะไรที่เป็นข้อห่วงใย เป็นเรื่องหนักใจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่

เมื่อถามว่าส่วนแรงงานที่อยู่ต่างประเทศในขณะนี้ ทางรัฐบาลเราได้มีมาตรการที่จะช่วยเหลือหรือดูแลมากน้อยเพียงใด รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำกำชับและมอบให้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบถึงชุดเฉพาะกิจได้มีการบูรณากำลังไปดำเนินการประสานงานกับทางประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทาง ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย และเจ้าหน้าที่อีกหลายส่วน จัดทีมแพทย์ไปช่วยเหลือดูแล โดยชุดแรกได้มีการเดินทางกลับมาแล้วจำนวนกว่า 100 คน

“กระบวนการในส่วนนี้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หมายความว่าถ้ายังมีแรงงานคนไทยต้องการความช่วยเหลือเพื่อเดินทางกลับ และได้รับความคุ้มครองในเรื่องการประกอบอาชีพ เพราะว่าบางส่วนทราบว่ามสัครใจที่จะอยู่ต่อเพื่อทำอาชีพประมง ในส่วนนี้ก็ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง อันนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้น ขอยืนยันว่าเป็นนโยบายสำคัญที่ทางรัฐบาลเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประมงแรงงานไทย” รอง ผบ.ตร. ระบุ

เมื่อถามว่าสำหรับผู้ที่เข้าข่ายถูกหลอกให้ไปค้าแรงงาน มีการขยายผลหรือไม่ พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงมีความชัดเจน เป็นเรื่องการค้ามนุษย์เรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์จากการหลอกลวงการใช้แรงงานประมง ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด

เมื่อถามต่อว่าตำรวจมีข้อมูลตรงนี้หรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการซักถามแรงงานประมงบางส่วน เชื่อว่า มีข้อมูลมาดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป

เมื่อถามว่า มีคนไทยเข้าไปร่วมด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ถ้าในภาพรวมโดยทั่วไป ขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานประมงมี 2 ส่วน คือ ต้นทางที่มาจากประเทศก็คงประเทศนั้นที่รู้เห็นเป็นใจสนับสนุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูข้อเท็จจริงว่าที่ต้นทางสมัครใจมาหรือไม่อย่างไร ถูกบังคับหลอกลวง ขู่เข็ญ ตนยืนยันว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ถ้าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเข้าข่ายการกระทำความผิดการค้ามนุษย์ จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น