พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะอำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชี้แจงและมอบแนวทางการปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการและชุดปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติในพื้นที่ จ.นราธิวาส
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างการยอมรับจากต่างประเทศที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และด้านสังคมอย่างรอบด้าน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง จึงต้องมีแนวทางการปฎิบัติที่ชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกันตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ โดยเน้นการป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี หรือขอทานลักษณะการบังคับขู่เข็ญในพื้นที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ยืนยันทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง แต่ให้ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่หาแนวทางในการดำเนินการร่วมกัน โดยพิจารณาตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่ได้มีเหตุหรือพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิดในกรณ๊การค้ามนุษย์ แต่ก็ได้กำชับให้ทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องและเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำด้วยว่า หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จะมีการดำเนินคดีทั้งโทษทางวินัยและคดีอาญาอย่างถึงที่สุด จึงขอให้มั่นใจในแนวทางที่ทุกหน่วยตั้งแต่ผู้บังคัฐบัญชาระดับสูงและเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการจะดำเนินการอย่างเป็นเอกภาพเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างการยอมรับจากต่างประเทศที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และด้านสังคมอย่างรอบด้าน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง จึงต้องมีแนวทางการปฎิบัติที่ชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกันตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ โดยเน้นการป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี หรือขอทานลักษณะการบังคับขู่เข็ญในพื้นที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ยืนยันทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง แต่ให้ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่หาแนวทางในการดำเนินการร่วมกัน โดยพิจารณาตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่ได้มีเหตุหรือพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิดในกรณ๊การค้ามนุษย์ แต่ก็ได้กำชับให้ทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องและเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำด้วยว่า หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จะมีการดำเนินคดีทั้งโทษทางวินัยและคดีอาญาอย่างถึงที่สุด จึงขอให้มั่นใจในแนวทางที่ทุกหน่วยตั้งแต่ผู้บังคัฐบัญชาระดับสูงและเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการจะดำเนินการอย่างเป็นเอกภาพเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
