นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนเนปาลที่ประสบภัยแผ่นดินไหวของทีมแพทย์สนามฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติ หรือ ทีมเมิร์ต (Medical Emergency Response Team : MERT) ว่า ขณะนี้ประเทศเนปาลเข้าสู่ระยะของการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ทีมแพทย์ได้ปรับการทำงานโดยเพิ่มการควบคุมป้องกันโรค การดูแลความสะอาดสุขาภิบาลอาหาร สิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพจิตเพื่อคลายความวิตกกังวล ซึ่งจะพบมากขึ้น
ขณะนี้ทีมเมิร์ตไทยได้ปรับการทำงานเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านบริการทางการแพทย์ยังคงให้บริการเช่นเดิมแต่มีผู้มารับบริการน้อยลง และเพิ่มการให้บริการเชิงรุกและพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2. ส่งทีมแพทย์เข้าไปประเมินสุขภาพประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อช่วยประชาชนให้ฟื้นคืนขึ้นมาดำรงชีวิตต่อไปทั้งในเรื่องการควบคุมป้องกันโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม สุขภาพจิต 3. สถาปนาระบบสุขภาพของชุมชนให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างยังยืนโดยจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลและโรงพยาบาลดูลิเกล ซึ่งอยู่ใกล้กับ ต.ซิปปะกัต 4. สรุปผลการปฏิบัติงานและเร่งถอดบทเรียนเพื่อให้ข้อเสนอแนะต่อกระทรวงสาธารณสุขประเทศเนปาล องค์การอนามัยโลก และนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานของประเทศไทยหากประสบภัยพิบัติในอนาคต และ 5. เป็นศูนย์ประสานงานให้หน่วยบริการทางการแพทย์นานาชาติที่มาปฏิบัติงานบริเวณใกล้เคียง ต.ซิปปะกัต เนื่องจากจุดที่ตั้งของทีมเมิร์ทไทย ตั้งอยู่ใน ต.ซิปปะกัตซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่จะเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาหิมาลัย
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดทีมที่บริเวณโรงเรียนปาชคาลนั้น ขณะนี้ได้รับการประสานจากกระกระทรวงสาธารณสุขเนปาล ให้ทีมเมิร์ตไทยดูแลพื้นที่ใกล้ตำบลซิปปะกัต ก่อน เนื่องจากพื้นที่ที่โรงเรียนปาชคาลอยู่คนละจังหวัดกับที่ตั้งทีมเมิร์ตไทยเดิม โดยในวันนี้ทีมไทยจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาล และองค์การอนามัยโลก ที่กาฐมาณฑุ เพื่อปรับแผนการทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติม
สำหรับทีมแพทย์ชุดที่ 2 ที่จะไปสับเปลี่ยนกับทีมแพทย์ชุดแรกนั้นจะปฐมนิเทศในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบ บทบาทของทีม การเตรียมตัวของทีม ตลอดจนการรับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ซึ่งทีมแพทย์ชุดนี้มีทั้งหมด 24 คน โดยจะเดินทางในวันที่ 7 พฤษภาคม ด้วยสายการบินไทย เวลาประมาณ 10.00 น. และจะเดินทางต่อไปยัง ต.ซิปปะกัต ทันทีเพื่อรับมอบงาน
ส่วนทีมแพทย์ชุดแรกจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเนปาลเป็นระยะเวลา 30 วัน หากพบว่ามีอาการไข้ให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง
พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเฟซบุ๊กชื่อ "ความช่วยเหลือเพื่อเนปาล Medical Thailand for Nepal" ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าได้
ขณะนี้ทีมเมิร์ตไทยได้ปรับการทำงานเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านบริการทางการแพทย์ยังคงให้บริการเช่นเดิมแต่มีผู้มารับบริการน้อยลง และเพิ่มการให้บริการเชิงรุกและพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2. ส่งทีมแพทย์เข้าไปประเมินสุขภาพประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อช่วยประชาชนให้ฟื้นคืนขึ้นมาดำรงชีวิตต่อไปทั้งในเรื่องการควบคุมป้องกันโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม สุขภาพจิต 3. สถาปนาระบบสุขภาพของชุมชนให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างยังยืนโดยจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลและโรงพยาบาลดูลิเกล ซึ่งอยู่ใกล้กับ ต.ซิปปะกัต 4. สรุปผลการปฏิบัติงานและเร่งถอดบทเรียนเพื่อให้ข้อเสนอแนะต่อกระทรวงสาธารณสุขประเทศเนปาล องค์การอนามัยโลก และนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานของประเทศไทยหากประสบภัยพิบัติในอนาคต และ 5. เป็นศูนย์ประสานงานให้หน่วยบริการทางการแพทย์นานาชาติที่มาปฏิบัติงานบริเวณใกล้เคียง ต.ซิปปะกัต เนื่องจากจุดที่ตั้งของทีมเมิร์ทไทย ตั้งอยู่ใน ต.ซิปปะกัตซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่จะเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาหิมาลัย
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดทีมที่บริเวณโรงเรียนปาชคาลนั้น ขณะนี้ได้รับการประสานจากกระกระทรวงสาธารณสุขเนปาล ให้ทีมเมิร์ตไทยดูแลพื้นที่ใกล้ตำบลซิปปะกัต ก่อน เนื่องจากพื้นที่ที่โรงเรียนปาชคาลอยู่คนละจังหวัดกับที่ตั้งทีมเมิร์ตไทยเดิม โดยในวันนี้ทีมไทยจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาล และองค์การอนามัยโลก ที่กาฐมาณฑุ เพื่อปรับแผนการทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติม
สำหรับทีมแพทย์ชุดที่ 2 ที่จะไปสับเปลี่ยนกับทีมแพทย์ชุดแรกนั้นจะปฐมนิเทศในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบ บทบาทของทีม การเตรียมตัวของทีม ตลอดจนการรับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ซึ่งทีมแพทย์ชุดนี้มีทั้งหมด 24 คน โดยจะเดินทางในวันที่ 7 พฤษภาคม ด้วยสายการบินไทย เวลาประมาณ 10.00 น. และจะเดินทางต่อไปยัง ต.ซิปปะกัต ทันทีเพื่อรับมอบงาน
ส่วนทีมแพทย์ชุดแรกจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเนปาลเป็นระยะเวลา 30 วัน หากพบว่ามีอาการไข้ให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง
พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเฟซบุ๊กชื่อ "ความช่วยเหลือเพื่อเนปาล Medical Thailand for Nepal" ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าได้