จากกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 5 โดยการนำของ พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตรวจสอบตามวัดต่างๆ ที่พระสงฆ์ได้นำซากศพเด็กทารกมาทำพิธีทางไสยเวทย์ รวมทั้งกะโหลกมนุษย์ และได้ดำเนินการขุดศพเด็กหญิงวันเพ็ญ ที่ถูกฝังใต้ฐานพระพรหมที่วัดห้วยดินจี่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ จากนั้น ทำการตรวจสอบสุสานหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบสัปเหร่อ สามีภรรยา คือ นางสมบูรณ์ เนรมิตร อายุ 72 ปี และนายสุทัศน์ เนรมิตร อายุ 58 ปี สัปเหร่อสุสานหายยา และชิ้นส่วนศพจำนวน 20 ถุง ซุกซ่อนอยู่ใต้ถุนเมรุของสุสาน
นายสุทัศน์ รับสารภาพว่า ได้รับเศษชิ้นส่วนศพมาจากโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ในเขตภาคเหนือ เพื่อนำมาเผา ทั้งที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการยกเลิกการรับเผาศพและชิ้นส่วนศพของทางโรงพยาบาลและคลินิกไปนานกว่า 2 ปี เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 สามีภรรยา โดยทั้ง 2 คน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้น ตำรวจภูธร ภาค 5 ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีบุคคลทำการโฆษณา วิธีการนำชิ้นส่วนศพมาทำพิธีเคี่ยวกับน้ำมัน ผลิตเป็นน้ำมันพรายบรรจุใส่ขวด บางรายนำเฉพาะชิ้นส่วนศพบริเวณอวัยวะเพศหญิงและชายมาเคี่ยวในน้ำมัน โดยนำภาพวิธีการทำลงในเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก เพื่อโฆษณาให้ชาวต่างชาติสนใจ ทำตัวเป็นจอมขมังเวทย์ ผลิตวัตถุมงคลแบบพิสดารส่งออกจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติ ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเป้าหมาย พบว่ามีจอมขมังเวทย์อยู่จริง ที่ อ.แม่แตง และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มี 3 คน และยังทราบด้วยว่าบุคคลเหล่านี้ได้ซื้อซากชิ้นส่วนศพจากสุสานต่างๆ รวมทั้งสุสานหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ด้วย และทราบมาว่าซากชิ้นส่วนศพที่ตำรวจพบในสุสานหายยา จำนวน 16 ถุง มีกลุ่มจอมขมังเวทย์ คือ นายทรัพย์ จาก อ.แม่แตง ได้ติดต่อกับนางสมบูรณ์ เพื่อซื้อไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ถูกตำรวจภาค 5 บุกเข้าตรวจสอบและยึดไว้เสียก่อน
นายสุทัศน์ รับสารภาพว่า ได้รับเศษชิ้นส่วนศพมาจากโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ในเขตภาคเหนือ เพื่อนำมาเผา ทั้งที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการยกเลิกการรับเผาศพและชิ้นส่วนศพของทางโรงพยาบาลและคลินิกไปนานกว่า 2 ปี เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 สามีภรรยา โดยทั้ง 2 คน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้น ตำรวจภูธร ภาค 5 ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีบุคคลทำการโฆษณา วิธีการนำชิ้นส่วนศพมาทำพิธีเคี่ยวกับน้ำมัน ผลิตเป็นน้ำมันพรายบรรจุใส่ขวด บางรายนำเฉพาะชิ้นส่วนศพบริเวณอวัยวะเพศหญิงและชายมาเคี่ยวในน้ำมัน โดยนำภาพวิธีการทำลงในเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก เพื่อโฆษณาให้ชาวต่างชาติสนใจ ทำตัวเป็นจอมขมังเวทย์ ผลิตวัตถุมงคลแบบพิสดารส่งออกจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติ ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเป้าหมาย พบว่ามีจอมขมังเวทย์อยู่จริง ที่ อ.แม่แตง และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มี 3 คน และยังทราบด้วยว่าบุคคลเหล่านี้ได้ซื้อซากชิ้นส่วนศพจากสุสานต่างๆ รวมทั้งสุสานหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ด้วย และทราบมาว่าซากชิ้นส่วนศพที่ตำรวจพบในสุสานหายยา จำนวน 16 ถุง มีกลุ่มจอมขมังเวทย์ คือ นายทรัพย์ จาก อ.แม่แตง ได้ติดต่อกับนางสมบูรณ์ เพื่อซื้อไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ถูกตำรวจภาค 5 บุกเข้าตรวจสอบและยึดไว้เสียก่อน