การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. วันนี้ (22 เม.ย.) จะเริ่มเวลา 09.00 น. เป็นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกต่อเป็นวันที่สาม หลังการประชุมวานนี้ ใช้เวลา 13 ชั่วโมง และปิดประชุมเมื่อเวลา 22.00 น. ซึ่งพิจารณาในภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและระบบผู้แทนที่ดี มี 7 หมวด คือ ระบบผู้แทนที่ดีและสถาบันการเมืองที่ดี แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี การคลังและการงบประมาณ ความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการ นักการเมืองและประชาชน การกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่น รวม 144 มาตรา
โดยตลอดทั้งวันสมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายขอให้ทบทวนประเด็นที่มานายกรัฐมนตรีจากคนนอก และระบบการเลือกตั้งแบบผสม เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะเป็นการไม่ยึดโยงกับประชาชนและจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีอำนาจพิเศษขึ้นมา ดังนั้น หากเจตนารมณ์ของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องการเปิดช่องเพื่อแก้ไขวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตสามารถบรรจุไว้ในบทเฉพาะกาลได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเลือกตั้งระบบสัดส่วนผสมเป็นอุปสรรคสำคัญในการปฏิรูปและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ ทำให้รัฐบาลไม่มีเอกภาพนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงเป็นห่วงมาตรา 182 ที่กำหนดให้ฝ่ายบริหารสามารถเสนอกฎหมายได้ทุกประเภทและหากสภาไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายใน 48 ชั่วโมง จะถือว่ากฎหมายผ่านความเห็นชอบ ซึ่งจะกลายเป็นชนวนให้เกิดวิกฤติในบ้านเมืองอีกครั้ง
ขณะที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงถึงกลไก อำนาจในมาตรานี้ ว่า ได้มีการกำหนดแนวทางดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะกฎหมายจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ส.ว.อีก ซึ่งมีกระบวนการป้องกันการแทรกแซงจากรัฐบาล เพราะที่มาของ ส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แต่ควรมาจาก 3 ช่องทางที่กำหนด และที่สำคัญเพื่อให้รัฐบาลผสมมีเสถียรภาพ
ขณะที่การประชุมวันนี้ ยังเป็นการพิจารณาในภาค 2 หมวด 2 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ โดยมีสมาชิก สปช.รอการอภิปรายอีกจำนวน 78 คน
โดยตลอดทั้งวันสมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายขอให้ทบทวนประเด็นที่มานายกรัฐมนตรีจากคนนอก และระบบการเลือกตั้งแบบผสม เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะเป็นการไม่ยึดโยงกับประชาชนและจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีอำนาจพิเศษขึ้นมา ดังนั้น หากเจตนารมณ์ของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องการเปิดช่องเพื่อแก้ไขวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตสามารถบรรจุไว้ในบทเฉพาะกาลได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเลือกตั้งระบบสัดส่วนผสมเป็นอุปสรรคสำคัญในการปฏิรูปและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ ทำให้รัฐบาลไม่มีเอกภาพนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงเป็นห่วงมาตรา 182 ที่กำหนดให้ฝ่ายบริหารสามารถเสนอกฎหมายได้ทุกประเภทและหากสภาไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายใน 48 ชั่วโมง จะถือว่ากฎหมายผ่านความเห็นชอบ ซึ่งจะกลายเป็นชนวนให้เกิดวิกฤติในบ้านเมืองอีกครั้ง
ขณะที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงถึงกลไก อำนาจในมาตรานี้ ว่า ได้มีการกำหนดแนวทางดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะกฎหมายจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ส.ว.อีก ซึ่งมีกระบวนการป้องกันการแทรกแซงจากรัฐบาล เพราะที่มาของ ส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แต่ควรมาจาก 3 ช่องทางที่กำหนด และที่สำคัญเพื่อให้รัฐบาลผสมมีเสถียรภาพ
ขณะที่การประชุมวันนี้ ยังเป็นการพิจารณาในภาค 2 หมวด 2 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ โดยมีสมาชิก สปช.รอการอภิปรายอีกจำนวน 78 คน
