ศาลแขวงดุสิต นัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานนัดแรก หลังจากพนักงานอัยการพิเศษเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 10 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายประพันธ์ คูณมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สมณะโพธิรักษ์ หรืออดีตพระโพธิรักษ์ นายสุริยะใส กตะศิลา นายเทิดภูมิ ใจดี นายพิภพ ธงไชย นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี หรือนายอมร อมรรัตนานนท์ และนายทศพล แก้วทิมา เป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำหนดห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่หรือสถานที่ที่กำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 คณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้พื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน เขตดุสิต เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา และเขตราชเทวี เป็นพื้นที่มีเหตุการณ์กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งจำเลยทั้ง 10 ได้ร่วมกันตั้งเวทีชุมนุมและปิดการจราจรบนถนนถนนราชดำเนินนอก บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ โดยใช้ชื่อกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ตั้งเวทีชุมนุมที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และบรรดาแกนนำได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาล กรณีความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
นายประพันธ์ คูณมี ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ และอดีตแกนนำกลุ่มรวมพลังปกป้องแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาเพื่อสอบคำให้การในคดีดังกล่าว ซึ่งจำเลยทั้ง 10 คน เดินทางมาสอบคำให้การครบทุกคน พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเชื่อว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่เป็นการชุมนุมเรียกร้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และการชุมนุมก็ไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้ศาลพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม รวมถึงเรียกร้องให้ศาลพิจารณาเป็นคดีลับ โดยแกนนำไม่จำเป็นต้องสอบคำให้การทุกคน
ทั้งนี้ ศาลแขวงดุสิตได้นัดสอบคำให้การเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวนัดที่ 2 ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 คณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้พื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน เขตดุสิต เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา และเขตราชเทวี เป็นพื้นที่มีเหตุการณ์กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งจำเลยทั้ง 10 ได้ร่วมกันตั้งเวทีชุมนุมและปิดการจราจรบนถนนถนนราชดำเนินนอก บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ โดยใช้ชื่อกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ตั้งเวทีชุมนุมที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และบรรดาแกนนำได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาล กรณีความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
นายประพันธ์ คูณมี ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ และอดีตแกนนำกลุ่มรวมพลังปกป้องแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาเพื่อสอบคำให้การในคดีดังกล่าว ซึ่งจำเลยทั้ง 10 คน เดินทางมาสอบคำให้การครบทุกคน พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเชื่อว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่เป็นการชุมนุมเรียกร้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และการชุมนุมก็ไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้ศาลพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม รวมถึงเรียกร้องให้ศาลพิจารณาเป็นคดีลับ โดยแกนนำไม่จำเป็นต้องสอบคำให้การทุกคน
ทั้งนี้ ศาลแขวงดุสิตได้นัดสอบคำให้การเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวนัดที่ 2 ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้