นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ช่วงนี้มีข่าวการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ โดยอ้างเหตุผลของการทุจริต และต้องการนำไปสู่การปฏิรูประบบการศึกษาของไทย
สิ่งสำคัญที่ต้องยอมรับการศึกษาไทยที่แย่ และเกิดความเหลื่อมล้ำมากในวันนี้เพราะการรวมศูนย์ของทรัพยากร โดยเฉพาะงบประมาณ และอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ถูกรวมศูนย์ไว้ทั้งส่วนกลางและเขตพื้นที่ จึงไม่แปลกที่อำนาจที่ถูกรวมศูนย์และงบประมาณที่ถูกดึงไว้จึงนำไปสู่การทุจริต
แม้แต่การแก้ไข พ.ร.บ.ทางการศึกษาในอดีตที่แยกแท่งออกมา ก็ไม่ได้ทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของผู้บริหารระดับสูง แต่สิ่งเหล่านี้ลงไม่ถึงคุณครูและนักเรียน
ถ้าจะให้มองกันง่ายๆ เรื่องปฏิรูปการศึกษา สิ่งที่ต้องทำก็คือ ทำอย่างไรให้คุณครูอยากสอน และได้ผู้อำนวยการที่เก่งที่เข้าใจปรัชญาของการศึกษา ดังนั้นทรัพยากรหลักทั้งเงิน และการรับครู ควรจะต้องถูกโอนไปที่โรงเรียนโดยตรง เพื่อให้ถึงคุณครูและนักเรียนด้วย เพียงแต่จัดลำดับความพร้อมของโรงเรียนที่จะรับโอน ส่วนกลางก็ไม่ต้องมีคนมากเกิน เพราะมีหน้าที่ควบคุม กำกับ และติดตาม โดยขอย้ำว่าทุกอย่างต้องเน้นลงที่โรงเรียน โรงเรียนก็มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ที่สำคัญคือแรงจูงใจที่จะหาผู้อำนวยการเก่งๆ ง่ายขึ้น ผู้อำนวยการไม่ต้องไปวิ่งเต้น เพราะการเป็นผู้บริหารโรงเรียนก็ถือว่าที่สุดแล้ว ถ้าผลงานของโรงเรียนไม่ดีก็เปลี่ยนผู้อำนวยการในรายละเอียดปลีกย่อยค่อยมาว่ากัน ปัญหาการทุจริตใหญ่ก็จะเกิดน้อย เพราะถูกกระจายไปแล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คสช.ควรจะต้องทำ ถ้าไม่ทำมัวแต่เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงอย่างเดียว ถือว่าหลงทาง
สิ่งสำคัญที่ต้องยอมรับการศึกษาไทยที่แย่ และเกิดความเหลื่อมล้ำมากในวันนี้เพราะการรวมศูนย์ของทรัพยากร โดยเฉพาะงบประมาณ และอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ถูกรวมศูนย์ไว้ทั้งส่วนกลางและเขตพื้นที่ จึงไม่แปลกที่อำนาจที่ถูกรวมศูนย์และงบประมาณที่ถูกดึงไว้จึงนำไปสู่การทุจริต
แม้แต่การแก้ไข พ.ร.บ.ทางการศึกษาในอดีตที่แยกแท่งออกมา ก็ไม่ได้ทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของผู้บริหารระดับสูง แต่สิ่งเหล่านี้ลงไม่ถึงคุณครูและนักเรียน
ถ้าจะให้มองกันง่ายๆ เรื่องปฏิรูปการศึกษา สิ่งที่ต้องทำก็คือ ทำอย่างไรให้คุณครูอยากสอน และได้ผู้อำนวยการที่เก่งที่เข้าใจปรัชญาของการศึกษา ดังนั้นทรัพยากรหลักทั้งเงิน และการรับครู ควรจะต้องถูกโอนไปที่โรงเรียนโดยตรง เพื่อให้ถึงคุณครูและนักเรียนด้วย เพียงแต่จัดลำดับความพร้อมของโรงเรียนที่จะรับโอน ส่วนกลางก็ไม่ต้องมีคนมากเกิน เพราะมีหน้าที่ควบคุม กำกับ และติดตาม โดยขอย้ำว่าทุกอย่างต้องเน้นลงที่โรงเรียน โรงเรียนก็มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ที่สำคัญคือแรงจูงใจที่จะหาผู้อำนวยการเก่งๆ ง่ายขึ้น ผู้อำนวยการไม่ต้องไปวิ่งเต้น เพราะการเป็นผู้บริหารโรงเรียนก็ถือว่าที่สุดแล้ว ถ้าผลงานของโรงเรียนไม่ดีก็เปลี่ยนผู้อำนวยการในรายละเอียดปลีกย่อยค่อยมาว่ากัน ปัญหาการทุจริตใหญ่ก็จะเกิดน้อย เพราะถูกกระจายไปแล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คสช.ควรจะต้องทำ ถ้าไม่ทำมัวแต่เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงอย่างเดียว ถือว่าหลงทาง