พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยม พ.ต.ท.กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเด็กแว้นทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะทำการเตรียมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ภายในปั๊มน้ำมันรุ่งพิทักษ์ 1 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และถูกส่งตัวเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ห้อง 606 โดยขณะนี้อาการถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่วใบหน้าด้านขวาบวม กระดูกเบ้าตาและกระดูกโหนกแก้มขวาแตก ส่วนผลเอกซเรย์สมองปกติไม่พบมีเลือดคั่ง ซึ่งหลังจากแผลยุบต้องมีการเช็กเส้นประสาทตาอีกครั้ง
พ.ต.ท.กฤษณ์ เล่าว่า เมื่อคืนขณะออกตรวจในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวประมาณ 100 คันแข่งรถจักรยานยนต์ จึงมาตรวจสอบและยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน พร้อมประสานทางวิทยุสายตรวจขอกำลังเสริม ระหว่างนั้นมีวัยรุ่นเข้ามาทางด้านหลังของตนและทำร้ายก่อนหลบหนีไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบกระเช้าของเยี่ยมเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจและเงินสดส่วนตัวให้กับ พ.ต.ท.กฤษณ์ พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว พบมีประวัติคดียาเสพติด และเจ้าหน้าที่เชื่อภายในรถน่าจะมียาเสพติดและอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์ เลยทำร้ายเจ้าหน้าที่และยึดรถไป ซึ่งพฤติการณ์ก่อเหตุอุกอาจและโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุนำตัวบุตรหลานมามอบตัวหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พ.ต.ท.กฤษณ์ เล่าว่า เมื่อคืนขณะออกตรวจในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวประมาณ 100 คันแข่งรถจักรยานยนต์ จึงมาตรวจสอบและยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน พร้อมประสานทางวิทยุสายตรวจขอกำลังเสริม ระหว่างนั้นมีวัยรุ่นเข้ามาทางด้านหลังของตนและทำร้ายก่อนหลบหนีไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบกระเช้าของเยี่ยมเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจและเงินสดส่วนตัวให้กับ พ.ต.ท.กฤษณ์ พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว พบมีประวัติคดียาเสพติด และเจ้าหน้าที่เชื่อภายในรถน่าจะมียาเสพติดและอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์ เลยทำร้ายเจ้าหน้าที่และยึดรถไป ซึ่งพฤติการณ์ก่อเหตุอุกอาจและโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุนำตัวบุตรหลานมามอบตัวหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง