นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ยอดเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 51.9 มีมูลค่ารวม 91,848 ล้านบาท หลังจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในขั้นตอนการออกใบอนุญาตกิจการโรงงาน (รง.4) ที่มีความโปร่งใสและสะดวกรวดเร็วขึ้นจากเดิม ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตในทางที่ดี และความมีเสถียรภาพของรัฐบาลทำให้บรรยากาศการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มกลับมา ขณะเดียวกันต้นทุนในการประกอบกิจการ ทั้งน้ำมัน วัสดุก่อสร้าง ปูนซิเมนต์ ค่าไฟฟ้า อยู่ในระดับราคาที่ลดลง
รวมถึงทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้มียอดขอเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่มีจำนวนเปิดกิจการและขยายกิจการมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร ผลิตยานพาหนะและชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์โลหะ
ทั้งนี้ หากนำยอดเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการใหม่ 3 เดือน รวมกับยอดระหว่างวันที่ 1 - 10 เมษายนนี้ ที่มีจำนวน 147 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 10,914 ล้านบาท รวมกับเรื่องการออกใบ รง.4 ให้กับโรงไฟฟ้า ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) พิจารณาต่อ คาดจะทำให้เป้าขอตั้งโรงงานใหม่และขยายกิจการใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในปี 2558 อย่างแน่นอน
ส่วนความคืบหน้าการแก้กฎกระทรวงในเรื่องการกำหนดประเภทโรงงานตามประเภทชนิด หรือขนาดใดเป็นโรงงานจำพวกที่ 1 โรงงานจำพวกที่ 2 โรงงงานจำพวกที่ 3 โดยการเปลี่ยนการกำหนดแรงม้าของเครื่องจักรใหม่ ให้แต่ละประเภทสูงขึ้น ขณะนี้อยู่ที่คณะกรรมการยกร่างปรับปรุงกฎกระทรวง คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเห็นชอบได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งยังคงเน้นให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก
รวมถึงทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้มียอดขอเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่มีจำนวนเปิดกิจการและขยายกิจการมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร ผลิตยานพาหนะและชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์โลหะ
ทั้งนี้ หากนำยอดเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการใหม่ 3 เดือน รวมกับยอดระหว่างวันที่ 1 - 10 เมษายนนี้ ที่มีจำนวน 147 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 10,914 ล้านบาท รวมกับเรื่องการออกใบ รง.4 ให้กับโรงไฟฟ้า ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) พิจารณาต่อ คาดจะทำให้เป้าขอตั้งโรงงานใหม่และขยายกิจการใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในปี 2558 อย่างแน่นอน
ส่วนความคืบหน้าการแก้กฎกระทรวงในเรื่องการกำหนดประเภทโรงงานตามประเภทชนิด หรือขนาดใดเป็นโรงงานจำพวกที่ 1 โรงงานจำพวกที่ 2 โรงงงานจำพวกที่ 3 โดยการเปลี่ยนการกำหนดแรงม้าของเครื่องจักรใหม่ ให้แต่ละประเภทสูงขึ้น ขณะนี้อยู่ที่คณะกรรมการยกร่างปรับปรุงกฎกระทรวง คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเห็นชอบได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งยังคงเน้นให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก