xs
xsm
sm
md
lg

สธ.แนะเลี่ยงทำงานกลางแดด เสี่ยงเป็นโรคฮีตสโตรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แนะนำหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ เลี่ยงการทำงาน หรือ ออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน เสี่ยงเกิดโรคฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด ควรทำงานหรือออกกำลังกายในสถานที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

ด้านแพทย์หญิงภาวิณี ฤกษ์นิมิตร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อนให้ระวัง "โรคฮีตสโตรก" หรือ โรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งพบมากในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุมาก หรือคนชรา เนื่องจากอุณหภูมิความร้อนสะสมในร่างกายค่อนข้างสูง และระบายความร้อนออกจากร่างกายไม่ทัน ทำให้มีอาการหมดสติ เป็นลม หรือถึงขั้นช็อก สำหรับการป้องกันควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วงเวลา 10.00น.-15.00 น.

ทั้งนี้ฮีตสโตรก (Heat stroke) หรือที่เรียกกันทั่วไปคือ โรคลมแดด เกิดจากการที่ ร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสะสมสูง จนทำให้ อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ, ตับ, ปอด, ม้าม, สมอง ร้อนระอุจนสุก ทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน และทำให้ เสียชีวิต ในที่สุด อาการดังกล่าวนี้อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัด เนื่องจากโดยปกติร่างกายจะใช้ เหงื่อ และ ปัสสาวะ เป็นตัวปรับอุณหภูมิในร่างกายให้สมดุล ในช่วงที่อากาศร้อนมาก ๆ ร่างกายจะเกิดการคายความร้อนออกมาพร้อมกับน้ำในรูปของเหงื่อ ซึ่งพร้อมกับการสูญเสียน้ำก็จะมีการชดเชยด้วยการที่สมองจะสั่งให้เกิดความรู้สึก หิวน้ำ กลไกสั่งการนี้จะใช้ระดับความเข้มข้นของเลือดที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเสียน้ำเป็นตัวส่งสัญญาณไปยังสมอง เพื่อสร้างความรู้สึกหิวน้ำให้เกิดขึ้น แต่สำหรับคนที่เกิดอาการ ฮีตสโตรก ร่างกายไม่เพียงขับน้ำออกมาพร้อมกับเหงื่อเท่านั้น แต่ยังสูญเสียเกลือแร่ออกมาด้วย เพราะฉะนั้นร่างกายจึงเกิดขาดน้ำ เนื่องจากระดับความเข้มข้นของเลือดไม่เปลี่ยนแปลง กว่าจะรู้ตัวก็อาจจะสายเกินไป

ดังนั้นเมื่อร่างกายเสียน้ำมากเกินไปปริมาณเลือดจะลดลง จนไม่อาจไหลเวียนเลี้ยงร่างกายได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะสมอง และร่างกายจะไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียน้ำอีก โดยต่อมเหงื่อจะหยุดทำงานทันที ซึ่งแม้จะหยุดการเสียน้ำได้ แต่ความร้อนก็จะไม่สามารถระบายออกได้ ถึงจุดนี้ก็จะทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เปรียบเหมือนหม้อความดันที่กำลังเดือด ผลก็คืออวัยวะภายในต่าง ๆ จะเกิดภาวะร้อนจัด และจะทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน ซึ่งเมื่ออาการถึงระดับนี้การรักษาจะทำได้ยาก จึงมีโอกาสเสียชีวิตสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น