นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ตัวแทนสมาพันธ์อบจ.ภาคใต้ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นวิทยากรการสัมมนาเรื่องฝ่าวิกฤติยางพารา พัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มีเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วประเทศร่วมงาน และมี รศ.ดร. ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง มาเป็นวิทยากร
รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีคำสั่งการใช้ยางพาราทันที เช่นก่อสร้างถนน สนามกีฬา เพื่อระบายการใช้ยางพาราในประเทศ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาใช้นโยบายเพิ่มพื้นที่ปลูกยางทั่วประเทศโดยเฉพาะอีสาน ทำให้ในภาพรวมเกิดสถานการณ์กอดคอกันตาย ทั้งนี้ แนะนำว่า รัฐบาลต้องมีนโยบายใช้ยางในประเทศร้อยละ 50 ขายต่างประเทศร้อยละ 50 และทำให้ไทยเป็นเมืองยาง
นอกจากนี้ เกษตรกรต้องทำสวนแบบผสมผสาน ไม่ใช่ปลูกยางอย่างเดียว ต้องมีการแปรรูปยางในประเทศเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ต้องส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ แต่ยอมรับว่าติดปัญหาหลักคือนักการเมืองบางประเภทเป็น ขาใหญ่ เชื่อมโยงอยู่ในธุรกิจ เช่น นโยบายจะทำถนนคอนกรีต ผสมยางพาราก็เคยมีการขัดขวาง ไม่เห็นด้วย ดังนั้นประชาชนต้องตรวจสอบนักการเมืองด้วย หน่วยงานของรัฐต้องดึงการมีส่วนร่วมจากประชาชน และต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัย จีนมีวิทยาลัยยางได้ ไทยก็ต้องทำได้ ซึ่งในไทยมีนักวิจัยด้านยางน้อยมาก
ขณะที่นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้หารือและมีมติการก่อสร้างถนนคอนกรีตผสมยางพารา และได้เริ่มดำเนินการเข้าข้อบัญญัติแล้ว รอปฏิบัติจริง เช่น อบจ.สงขลา ส่วนที่จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2558 มีแผนก่อสร้างถนน 68 สายทาง งบประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนเครือข่าย โดยใช้งบประมาณสมทบกับท้องถิ่นอื่นๆ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาล ในสัดส่วน 60: 40 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดออกมากกว่า ขณะนี้ก่อสร้างถนนไปแล้ว 28 สายทาง คงเหลืออีก 40 สายทาง ซึ่งจะเปลี่ยนมาใช้ยางพาราร้อยละ 5 ผสมคอนกรีตราดถนน หรือแอลฟัสต์ติกคอนกรีตแน่นอน ซึ่งจะได้ทยอยเข้าสภา อบจ.ตรัง อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเนื่องจากการนำยางพารามาผสมคอนกรีตต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และอบจ.ตรังจะรับผิดชอบดูแลในส่วนนี้เอง
รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีคำสั่งการใช้ยางพาราทันที เช่นก่อสร้างถนน สนามกีฬา เพื่อระบายการใช้ยางพาราในประเทศ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาใช้นโยบายเพิ่มพื้นที่ปลูกยางทั่วประเทศโดยเฉพาะอีสาน ทำให้ในภาพรวมเกิดสถานการณ์กอดคอกันตาย ทั้งนี้ แนะนำว่า รัฐบาลต้องมีนโยบายใช้ยางในประเทศร้อยละ 50 ขายต่างประเทศร้อยละ 50 และทำให้ไทยเป็นเมืองยาง
นอกจากนี้ เกษตรกรต้องทำสวนแบบผสมผสาน ไม่ใช่ปลูกยางอย่างเดียว ต้องมีการแปรรูปยางในประเทศเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ต้องส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ แต่ยอมรับว่าติดปัญหาหลักคือนักการเมืองบางประเภทเป็น ขาใหญ่ เชื่อมโยงอยู่ในธุรกิจ เช่น นโยบายจะทำถนนคอนกรีต ผสมยางพาราก็เคยมีการขัดขวาง ไม่เห็นด้วย ดังนั้นประชาชนต้องตรวจสอบนักการเมืองด้วย หน่วยงานของรัฐต้องดึงการมีส่วนร่วมจากประชาชน และต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัย จีนมีวิทยาลัยยางได้ ไทยก็ต้องทำได้ ซึ่งในไทยมีนักวิจัยด้านยางน้อยมาก
ขณะที่นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้หารือและมีมติการก่อสร้างถนนคอนกรีตผสมยางพารา และได้เริ่มดำเนินการเข้าข้อบัญญัติแล้ว รอปฏิบัติจริง เช่น อบจ.สงขลา ส่วนที่จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2558 มีแผนก่อสร้างถนน 68 สายทาง งบประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนเครือข่าย โดยใช้งบประมาณสมทบกับท้องถิ่นอื่นๆ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาล ในสัดส่วน 60: 40 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดออกมากกว่า ขณะนี้ก่อสร้างถนนไปแล้ว 28 สายทาง คงเหลืออีก 40 สายทาง ซึ่งจะเปลี่ยนมาใช้ยางพาราร้อยละ 5 ผสมคอนกรีตราดถนน หรือแอลฟัสต์ติกคอนกรีตแน่นอน ซึ่งจะได้ทยอยเข้าสภา อบจ.ตรัง อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเนื่องจากการนำยางพารามาผสมคอนกรีตต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และอบจ.ตรังจะรับผิดชอบดูแลในส่วนนี้เอง