รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง ได้เดินทางมาร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าลูกชายพร้อมเพื่อนนักเรียนอีก 3 คน ถูกกระทำการล่วงละเมิดทางเพศขณะเดินทางไปดูงานโครงการนักเรียนวิทยาศาสตร์สู่สากล ระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคม ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ 46 คน ครูร่วมเดินทางไปดูแลนักเรียน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน โดยผู้ปกครองได้เล่าให้ฟังว่านักเรียนกลุ่มนี้เป็นเด็กห้องเรียนพิเศษ ในระหว่างการดูงานได้ถูกครูชาย ซึ่งมีลักษณะคล้ายผู้หญิงทำการล่วงละเมิดทางเพศลูกชายของผู้ปกครองคนดังกล่าวพร้อมเพื่อนรวม 4 คน เมื่อกลับมาลูกชายก็มาเล่าให้ฟัง ทำให้ผู้ปกครองรายนี้ ไม่พอใจจึงได้เดินทางมาร้องเรียนยังสพฐ. เพื่อให้ดำเนินการลงโทษครูคนดังกล่าวอย่างถึงที่สุด
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้ด้วยวาจาแล้วจึงได้มอบให้ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพฐ.เข้าไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันทราบว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา(สพม.) 2 กรุงเทพมหานคร ได้เรียกตัวครูคนดังกล่าวเข้ามาประจำที่ สพม.2 แล้วรวมถึงให้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแล้วเช่นกัน หากผลการสืบหาข้อเท็จจริงมีมูลก็ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นทาง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และมีคำสั่งให้สพฐ.ดำเนินการให้ถึงที่สุดเพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสีย
“เรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำต่อเด็ก ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ประพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือคนละเพศ ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง โดยเฉพาะที่เป็นการกระทำต่อเด็ก จะปล่อยไปไม่ได้ ซึ่งในส่วนของสพฐ.จะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาดแน่นอน”นายกมลกล่าว
นายวิจิตร วิทยาวราพงศ์ รองผอ. สพม.2 รักษาการแทน ผอ.สพม.2 กล่าวว่า เนื่องจากระหว่างที่เรื่องนี้เกิดขึ้น นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม.2 ซึ่งอยู่ระหว่างลาพักได้สั่งการให้ตนดำเนินการแล้ว อย่างไรก็ตามตามขั้นตอนแล้วเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่ฯก่อน แต่ทาง สพม.2 เห็นว่า เป็นเรื่องใหญ่และเรื่องด่วน จึงได้มีหนังสือสั่งการให้ครูคนดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพม.2 ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยไม่ได้กำหนดว่าจะต้องให้ช่วยราชการกี่วัน
นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน กล่าวว่า เบื้องต้นทางศูนย์ฯ ยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับนักเรียนโดยตรง แต่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครอง และเข้าไปประสาน ทราบว่าผู้ปกครองได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ดังนั้นขั้นต่อไปทางศูนย์จะเข้าไปเยียวยาจิตใจของเด็กทั้ง 4 คน ขณะที่ทางสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) เองอยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย เป็นการทำควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้ด้วยวาจาแล้วจึงได้มอบให้ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพฐ.เข้าไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันทราบว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา(สพม.) 2 กรุงเทพมหานคร ได้เรียกตัวครูคนดังกล่าวเข้ามาประจำที่ สพม.2 แล้วรวมถึงให้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแล้วเช่นกัน หากผลการสืบหาข้อเท็จจริงมีมูลก็ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นทาง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และมีคำสั่งให้สพฐ.ดำเนินการให้ถึงที่สุดเพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสีย
“เรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำต่อเด็ก ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ประพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือคนละเพศ ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง โดยเฉพาะที่เป็นการกระทำต่อเด็ก จะปล่อยไปไม่ได้ ซึ่งในส่วนของสพฐ.จะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาดแน่นอน”นายกมลกล่าว
นายวิจิตร วิทยาวราพงศ์ รองผอ. สพม.2 รักษาการแทน ผอ.สพม.2 กล่าวว่า เนื่องจากระหว่างที่เรื่องนี้เกิดขึ้น นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม.2 ซึ่งอยู่ระหว่างลาพักได้สั่งการให้ตนดำเนินการแล้ว อย่างไรก็ตามตามขั้นตอนแล้วเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่ฯก่อน แต่ทาง สพม.2 เห็นว่า เป็นเรื่องใหญ่และเรื่องด่วน จึงได้มีหนังสือสั่งการให้ครูคนดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพม.2 ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยไม่ได้กำหนดว่าจะต้องให้ช่วยราชการกี่วัน
นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน กล่าวว่า เบื้องต้นทางศูนย์ฯ ยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับนักเรียนโดยตรง แต่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครอง และเข้าไปประสาน ทราบว่าผู้ปกครองได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ดังนั้นขั้นต่อไปทางศูนย์จะเข้าไปเยียวยาจิตใจของเด็กทั้ง 4 คน ขณะที่ทางสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) เองอยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย เป็นการทำควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว