บุกจับพระวิตถารลวงเด็กชายตุ๋ยคาอารามสงฆ์คืน “วันมาฆบูชา”

น่าน - เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับพระวิตถาร ชวนเด็กบวชช่วงปิดเทอม พอเด็กไปนอนวัดวันมาฆบูชา สร้างความคุ้นเคยก่อนบวช กลับหลอกพยายามตุ๋ยเด็ก โชคดีเหยื่อดิ้นหนีรอดได้ ก่อนวิ่งกลับบ้านกลางดึก เจ้าตัวบอกแค่รัก เอ็นดูเด็ก ขณะที่ญาติบอกพระเป็นโรคประสาท สุดท้ายผู้ปกครองเหยื่อไม่เอาความ แต่ต้องจับสึกส่งรักษาทันที

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.ต.มานพ ค้าขาย สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองน่าน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพระพรเทพ รุจิระจันโท หรือ พระอั๋น ที่อารามสงฆ์ห้วยส้มป่อย ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน ซึ่งเป็นพระสงฆ์ในเครือข่ายและเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดใหญ่แห่งหนึ่งที่กำลังตกเป็นข่าวดังครึกโครมอยู่ในขณะนี้

หลังผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งพร้อมด้วยผู้ปกครองได้พาลูกและหลานชาย คือ ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 12 ปี, ด.ช.สอง (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สำราญ วงศ์ไชยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ให้เอาผิดพระพรเทพ เพราะมีพฤติกรรมพยายามล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายทั้งสองคนที่อารามสงฆ์ห้วยส้มป่อย

ผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองคนเปิดเผยว่า พระพรเทพ ซึ่งย้ายเข้ามาจำพรรษาอยู่ที่อารามสงฆ์ห้วยส้มป่อยได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ชักชวนให้นำลูกชายมาบวชเป็นสามเณรในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งตนเห็นว่าดี หวังให้ธรรมะขัดเกลาเด็กๆ ประกอบกับเมื่อวานเป็นวันพระ วันมาฆบูชา จึงได้ให้ลูกชาย กับหลานชายไปนอนค้างที่อารามสงฆ์เพื่อให้คุ้นเคยก่อนที่จะบวช ปรากฏว่ากลางดึกทั้งสองคนได้วิ่งร้องไห้กลับมาที่บ้าน พร้อมกับเล่าว่า พระพรเทพได้พยายามจะล่วงละเมิดทางเพศ

เด็กชายหนึ่ง (นามสมมติ) เล่าให้ฟังว่า ระหว่างอยู่ที่อารามสงฆ์ ซึ่งมีตนเองกับน้องชาย และพระพรเทพ เพียง 3 คน พระรูปอื่นเดินทางไปต่างจังหวัด พระพรเทพได้มาอุ้มตนเข้าไปที่ห้องพัก บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก โดยพามานั่งที่เตียงนอน และได้กอดพร้อมกับหอมแก้ม หอมคอ หอมตามตัว จากนั้นได้ยกขาทั้งสองข้างของตนขึ้นไปบนเตียงและกดตัวให้นอนลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นคร่อมร่างตน บอกให้ตนแลบลิ้นออกมา

“ตอนนั้นรู้สึกได้ถึงเรื่องไม่ดีจะเกิดขึ้น รู้สึกหวาดกลัวมาก ได้พยายามขัดขืน ต่อสู้ จะวิ่งหนีออกห้องนอน แต่พระพรเทพก็ได้มาดึงใช้มือล็อกเอว ล็อกตัวไว้ ผมก็ได้ดิ้นรนจนหนีออกมาหาน้องชายนอกห้องได้ จากนั้นพระพรเทพได้เดินตามมาบอกว่า ห้ามไปบอกเรื่องนี้กับใคร จึงรอจังหวะพระพรเทพเผลอพากันวิ่งหนีกลับบ้านที่อยู่ห่างจากอารามสงฆ์ฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร”

ขณะที่เด็กชายสอง (นามสมมติ) ก็ได้เปิดเผยว่า ถูกพระพระเทพทำในลักษณะเดียวกันกับพี่ชาย ซึ่งได้ขัดขืน หนีออกมานอกห้องได้ โดยยังไม่ทันได้คุย ได้บอกพี่ชาย พระพรเทพก็พาพี่ชายเข้าไปในห้องก่อน

จากการสอบสวนพระพรเทพได้ให้การรับสารภาพว่ากระทำการตามที่เด็กชายกล่าวจริง แต่กระทำไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูเท่านั้น

จากการสอบถามญาติทราบว่าพระพรเทพมีอาการทางโรคประสาทอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ทางผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองคนไม่ติดใจเอาความเนื่องจากสงสารเพราะมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติได้นำตัวพระพรเทพไปทำการลาสิกขาพ้นจากสภาพความเป็นพระสงฆ์ เพื่อนำตัวไปรักษาอาการทางประสาทต่อไป