พล.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุระเบิดหน้าศาลอาญา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ต้องหาว่า ถูกเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายร่างกาย ระหว่างการถูกควบคุมตัว ช่วง 9-15 มีนาคม ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวมีลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง และลักษณะใส่ร้ายทำรายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าว หรือมีกลุ่มบุคคลใดซึ่งไม่หวังดี พยาพยามสร้างข้อมูลเท็จ ทั้งมั่นใจไม่มีเหตุที่ที่เจ้าหน้าจะไปบังคับขู่เข็น โดยเฉพาะข้อมูลในชั้นนี้เป็นเพียงองค์ประกอบส่วนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ข้อผูกมัดหลักทางคดี
ส่วนการดำเนินการสำหรับความผิดในทางคดีนั้น จะอยู่ในขั้นตอนของทางตำรวจที่จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และสำหรับการส่งมอบผู้ที่ถูกควบคุมตัวให้กับทางตำรวจจะมีระบบการตรวจเช็คร่างกายไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยคงไม่มีใครสามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ ยืนยันเจ้าหน้าดำเนินด้วยหลักสากลตามแนวทางที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยการออกมากล่าวโทษในลักษณะนี้ เทียบเคียงได้เหมือนกับเป็นการฟังข้อมูลด้านเดียวแล้วกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูจะผิดวิสัยในคุณลักษณะทางวิชาชีพนักกฎหมาย ที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้งก่อน อีกทั้งโลกปัจจุบันการทำร้ายผู้ต้องหาถ้าเกิดขึ้นตรงก็สามารถตรวจสอบทางการแพทย์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้อยากให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ใช้มุมมองที่เป็นธรรมปราศจากอคติ
ส่วนการดำเนินการสำหรับความผิดในทางคดีนั้น จะอยู่ในขั้นตอนของทางตำรวจที่จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และสำหรับการส่งมอบผู้ที่ถูกควบคุมตัวให้กับทางตำรวจจะมีระบบการตรวจเช็คร่างกายไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยคงไม่มีใครสามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ ยืนยันเจ้าหน้าดำเนินด้วยหลักสากลตามแนวทางที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยการออกมากล่าวโทษในลักษณะนี้ เทียบเคียงได้เหมือนกับเป็นการฟังข้อมูลด้านเดียวแล้วกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูจะผิดวิสัยในคุณลักษณะทางวิชาชีพนักกฎหมาย ที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้งก่อน อีกทั้งโลกปัจจุบันการทำร้ายผู้ต้องหาถ้าเกิดขึ้นตรงก็สามารถตรวจสอบทางการแพทย์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้อยากให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ใช้มุมมองที่เป็นธรรมปราศจากอคติ
