xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เตรียมหน้ากากอนามัย 4 แสนชิ้นแจก 9 จว.ภาคเหนือป้องกันฝุ่นควัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน และตาก จัดเตรียมเวชภัณฑ์ ให้บริการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนจำนวน 250,000 ชิ้น พร้อมสั่งสำรองเพิ่มอีก 150,000 ชิ้น

จากการติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ ได้รับรายงานจากสำนักงานควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่ พบว่าผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ หอบหืด โรคความดันโลหิตสูง พบร้อยละ 10-20 เช่นที่โรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย มีอาการกำเริบเช่นหายใจหอบ เหนื่อย แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูงขึ้น เข้าไปรักษาในโรงพยาบาล แต่อาการไม่รุนแรงมาก

ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนของกรมควบคุมมลพิษ ในวันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. สูงเกินมาตรฐานทุกจังหวัด สูงสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 303 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ จ.เชียงราย 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เชียงใหม่ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงขอแนะนำประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากหมอกควันได้ง่าย ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ หอบหืด หากไม่จำเป็นขอให้อยู่ภายในบ้าน

ทางด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการป้องกันการสูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าปอด ขอให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูก ควรเปลี่ยนทุกวัน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์จะมีความเสี่ยงสูดละอองควันได้สูง จึงขอแนะนำให้ใส่หมวกกันน็อกชนิดที่มีกระบังกันลมและคาดหน้ากากอนามัย จะช่วยป้องกันได้ดีขึ้น ควรลดกิจกรรมการใช้แรงมาก เช่น ออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากจะเพิ่มการหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย 10-20 เท่าตัว รวมทั้งงดสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ ในช่วงที่มีฝุ่นละออง น้ำจะช่วยให้ร่างกายขับฝุ่นละอองออกจากระบบทางเดินหายใจง่ายขึ้น ไม่สะสมในปอด หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

สิ่งที่ประชาชนควรปฏิบัติ ได้แก่ ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิดอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาเช้า เนื่องจากหมอกควันจะลอยต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสหมอกควัน ควรทำความสะอาดบ้าน ของใช้ภายในบ้าน โดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดลดปริมาณฝุ่น หลีกเลี่ยงการใช้ไม้กวาดทำความสะอาดเพราะจะทำให้ฝุ่นกระจายมากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ อสม.ให้คำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง เช่น หลีกเลี่ยงการออกไปกลางแจ้ง หากจำเป็นควรใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกหรือใส่หน้ากากอนามัย หากมีอาการผิดปกติ หายใจไม่สะดวก ควรรีบพบแพทย์ พร้อมทั้งเฝ้าระวังการเผาต่างๆ หากพบว่ามีการจุดไฟเผาที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยไปที่ รพ.สต.ทั้งจังหวัด 50,000 ชิ้น ประชาชนสามารถขอรับได้ฟรี
ผลตรวจฝุ่นละอองภาคเหนือเกินมาตรฐานทุกังหวัด สำรองหน้ากากอนามัย 1.5 แสนชิ้น
สธ. เผยผลตรวจวัดฝุ่นละอองภาคเหนือเกินมาตรฐานทุกจังหวัด แจกหน้ากากอนามัยให้ ปชช.แล้ว 9 จังหวัด 250,000 ชิ้น เตรียมสำรองเพิ่มอีก 150,000 ชิ้น พบผู้ที่เป็นโรคประจำตัวเดิม ทั้งโรคหัวใจ หอบหืด อาการกำเริบเพิ่มขึ้น นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาล สธ.ทุกระดับในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน และตาก จัดเตรียมเวชภัณฑ์ ให้บริการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนจำนวน 250,000 ชิ้น สั่งสำรองเพิ่มอีก 150,000 ชิ้น จากการติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ ได้รับรายงานจากสำนักงานควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่ พบว่าผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ หอบหืด โรคความดันโลหิตสูง พบร้อยละ 10-20 เช่นที่โรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย มีอาการกำเริบเช่นหายใจหอบ เหนื่อย แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูงขึ้น เข้าไปรักษาในโรงพยาบาล แต่อาการไม่รุนแรงมาก ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มี.ค. พบว่าสูงเกินมาตรฐานทุกจังหวัด สูงสุดที่แม่ฮ่องสอนวัดได้ 303 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือเชียงราย 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เชียงใหม่ที่รร.ยุพราชวิทยาลัย 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงขอแนะนำประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากหมอกควันได้ง่ายได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังเช่นโรคหัวใจ หอบหืด หากไม่จำเป็นขอให้อยู่ภายในบ้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การป้องกันการสูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าปอด ขอให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูก ควรเปลี่ยนทุกวัน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์จะมีความเสี่ยงสูดละอองควันได้สูง จึงขอแนะนำให้ใส่หมวกกันน็อกชนิดที่มีกระบังกันลมและคาดหน้ากากอนามัย จะช่วยป้องกันได้ดีขึ้น ควรลดกิจกรรมการใช้แรงมาก เช่น ออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากจะเพิ่มการหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย 10-20 เท่าตัว รวมทั้งงดสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆในช่วงที่มีฝุ่นละออง น้ำจะช่วยให้ร่างกายขับฝุ่นละอองออกจากระบบทางเดินหายใจง่ายขึ้น ไม่สะสมในปอด หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน สิ่งที่ประชาชนควรปฏิบัติได้แก่ 1.ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิดอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาเช้า เนื่องจากหมอกควันจะลอยต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสหมอกควัน 2.ควรทำความสะอาดบ้าน ของใช้ภายในบ้าน โดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดลดปริมาณฝุ่น หลีกเลี่ยงการใช้ไม้กวาดทำความสะอาดเพราะจะทำให้ฝุ่นกระจายมากยิ่งขึ้น อธิบดี คร. กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น