รายงานข่าวแจ้งถึงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (16 มี.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า ลดลงแรงต่ำสุด 21.34 จุด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงถึง 4.70% มาอยู่ที่ 44.84 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ถ่วงตลาด ประกอบกับเผชิญแรงขายทำกำไรแบบคละกลุ่มเพื่อปิดความเสี่ยง และรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เรื่องแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในคืนวันพุธนี้ ส่งผลให้ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,522.18 จุด ลดลง 19.37 จุด หรือ1.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,058.71 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกบางส่วนด้วย โดยเฉพาะในตลาดพันธบัตร แต่ในส่วนของตลาดหุ้นนั้น คาดว่าเม็ดเงินไหลออกคงจะไม่มากนัก เพราะเมื่อพิจารณาจากระดับการถือครองของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยนับได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ทำให้มองว่า downside ของหุ้นที่ต่างชาติถือครองนั้นไม่น่าจะมากนัก ทำให้มองว่าบริเวณ 1,520 ดัชนีน่าจะรองรับได้อยู่
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าตลาดจะยังซึมตัวและแกว่งตัวในแดนลบ โดยยังคงมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มแบงก์ และน้ำมันกดดันอยู่ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,520-1,540 จุด อย่างไรก็ตามในด้านกลยุทธ์การลงทุน มองว่ายังไม่ใช่จุดขาย พร้อมแนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ย เช่น กลุ่มที่อยู่อาศัย กลุ่มส่งออก ที่ได้รับประโยชน์หลังการลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เป็นต้น ขณะที่ตลาดยังรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,842,041 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง 0.40 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,296,642 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
VGI มูลค่าการซื้อขาย 794,525 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 716,312 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 709,489 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกบางส่วนด้วย โดยเฉพาะในตลาดพันธบัตร แต่ในส่วนของตลาดหุ้นนั้น คาดว่าเม็ดเงินไหลออกคงจะไม่มากนัก เพราะเมื่อพิจารณาจากระดับการถือครองของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยนับได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ทำให้มองว่า downside ของหุ้นที่ต่างชาติถือครองนั้นไม่น่าจะมากนัก ทำให้มองว่าบริเวณ 1,520 ดัชนีน่าจะรองรับได้อยู่
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าตลาดจะยังซึมตัวและแกว่งตัวในแดนลบ โดยยังคงมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มแบงก์ และน้ำมันกดดันอยู่ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,520-1,540 จุด อย่างไรก็ตามในด้านกลยุทธ์การลงทุน มองว่ายังไม่ใช่จุดขาย พร้อมแนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ย เช่น กลุ่มที่อยู่อาศัย กลุ่มส่งออก ที่ได้รับประโยชน์หลังการลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เป็นต้น ขณะที่ตลาดยังรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,842,041 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง 0.40 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,296,642 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
VGI มูลค่าการซื้อขาย 794,525 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 716,312 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 709,489 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
