โบรกฯ เผยหุ้นเช้าร่วงเกือบ 20 จุด เพราะเจอแรงขายหุ้นพลังงาน และผลกระทบต่อเนื่องจาก กนง. หั่นดอกเบี้ย ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของไทย และดอกเบี้ยประเทศอื่นๆ แคบลง ทำให้ความน่าสนใจโยกเงิน carry trade มาไทยลดลง โดยคาดว่าจะมีเงินไหลออกจากตลาดบอนด์ ส่วนตลาดหุ้นเชื่อว่ายังไหลออกไม่มาก เพราะเมื่อพิจารณาจากระดับการถือครองของนักลงทุนต่างชาตินับได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ทำให้มองว่า downside ของหุ้นที่ต่างชาติถือครองนั้นไม่น่าจะมากนัก จึงทำให้มองว่าบริเวณ 1,520 ดัชนีน่าจะรองรับได้อยู่
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง และกดดันต่อภาพรวมของดัชนีตั้งแต่ช่วงเช้า (16 มี.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของไทย และดอกเบี้ยประเทศอื่นๆ แคบลง ทำให้ความน่าสนใจโยกเงิน carry trade มาไทยลดลง
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกบางส่วนด้วย โดยเฉพาะในตลาดพันธบัตร แต่ในส่วนของตลาดหุ้นนั้นคาดว่าเม็ดเงินไหลออกคงจะไม่มากนัก เพราะเมื่อพิจารณาจากระดับการถือครองของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยนับได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ทำให้มองว่า downside ของหุ้นที่ต่างชาติถือครองนั้นไม่น่าจะมากนัก ทำให้มองว่าบริเวณ 1,520 ดัชนีน่าจะรองรับได้อยู่
สำหรับภาวะตลาดหุ้นเช้านี้ ดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,522.18 จุด ลดลง 19.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.26% มูลค่าการซื้อขาย 23,058.71 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดเช้านี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าตลาดจะยังซึมตัว และแกว่งตัวในแดนลบ โดยยังคงมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มแบงก์ และน้ำมันกดดันอยู่ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,520-1,540 จุด อย่างไรก็ตาม ในด้านกลยุทธ์การลงทุนมองว่ายังไม่ใช่จุดขาย เพราะตลาดมี downside ต่ำ พร้อมแนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ย เช่น กลุ่มที่อยู่อาศัย กลุ่มส่งออก ที่ได้รับประโยชน์หลังการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เป็นต้น ขณะที่ตลาดยังรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
